BNB หรือ Binance Coin เป็นสกุลเงินดิจิทัลชนิดหนึ่งในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี BNB หรือ Binance Coin เป็นสกุลเงินดิจิทัลชนิดหนึ่งในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี เป็นโทเค็น (Token) ที่แต่เดิมทำงานบนฐานระบบบล็อกเชนของ Ethereum และภายหลัง Binance มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงมาใช้ระบบบล็อกเชนของตนเองคือ “Binance Chain” หรือ BEP2 ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่เพื่อรองรับการสร้าง Token ต่าง ๆ แทน Blockchain อื่นๆ และอำนวยความสะดวกในการประมวลผลการซื้อขายที่รวดเร็ว และยังมีความกระจายศูนย์ ทำให้มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ถูกสร้างขึ้นมาให้มีอยู่อย่างจำกัดที่จำนวน 200 ล้านเหรียญ และถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆ ราว 100 ล้านเหรียญ ถูกสร้างขึ้นมาให้มีอยู่อย่างจำกัดที่จำนวน 200 ล้านเหรียญ และถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆ ราว 100 ล้านเหรียญ
เหรียญ BNB สามารถใช้ในการจ่ายค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบน Binance Exchange ซึ่งจะได้รับส่วนลดในการจ่ายค่าธรรมเนียม อย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้น นักลงทุนส่วนใหญ่ที่ใช้งาน Binance จะต้องมี BNB เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมที่ถูกลง และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ BNB ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดมากนั่นเอง ใช้ชำระค่าบัตรเครดิตกับผู้ให้บริการที่รองรับได้ ใช้ซื้อ-ขายสินค้า โดยผู้ประกอบการหลายรายมีการรับชำระค่าสินค้าด้วย BNB มากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน สามารถใช้จองที่พัก โรงแรม ตั๋วเครื่องบินได้ ใช้ซื้อ Virtual Gifts ได้ ใช้ในการลงทุนในกองทุน ETF และหลักทรัพย์อื่นๆ ได้ สามารถนำไปเพิ่มมูลค่าใน Binance Saving ที่เป็นการฝากแบบ Flexible Saving ได้ ซึ่งเป็นลักษณะของการฝากเพื่อกินดอกเบี้ย สามารถถอนเมื่อไหร่ก็ได้ ใช้ฝากใน Locked Staking เป็นการที่นำ BNB ไปฝาก โดยที่กำหนดระยะเวลา 30, 60 และ 90 วัน ไม่สามารถทำการถอนได้ในระหว่างนี้ เพื่อให้ได้มาซึ่งดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งผลตอบแทนที่จะได้กลับมาก็จะเป็นเหรียญ BNB เช่นกัน ฝากใน Launchpool ที่เป็นการนำ BNB ไปฝากเพื่อเข้าร่วมโครงการที่จะเปิดตัวเหรียญใหม่ โดยจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเหรียญสกุลอื่นๆ กลับมาโดยที่ BNB ยังคงจำนวนเท่าเดิม หรือได้สิทธิในการซื้อเหรียญโครงการนั้นๆ โดยใช้เหรียญ BNB นั่นเอง นำไปฝากใน BNB Vault สำหรับผู้ที่ไม่รู้ว่าจะนำเหรียญไปฝากที่ไหนให้ได้กำไรสูงสุด สามารถใช้ BNB Vault เป็นตัวช่วยได้
การเผาเหรียญถูกกำหนดให้เกิดขึ้นในทุกๆ ไตรมาส เพื่อรักษาสมดุลของเหรียญในตลาด ซึ่ง Binance มีจุดประสงค์คือ ต้องการเบิร์นเหรียญให้เหลือเพียง 50% จากจำนวนเหรียญทั้งหมด หมายความว่าในอนาคตเหรียญ BNB เหลือเพียง 100 ล้านเหรียญ จาก 200 ล้านเหรียญนั้นเอง ในกระบวนการเผาเหรียญ Binance จะนำกำไรของบริษัท 20% เพื่อซื้อ BNB คืนและทำการเผาเหรียญนั้นๆ เสมือนการทำให้เหรียญสูญหายออกไปจากระบบอย่างถาวร การเผาเหรียญนั้นไม่ใช่การนำเหรียญออกมาแล้วจุดไฟเผาแต่อย่างใด แต่เป็นการที่ Binance ทำการโอนเหรียญ BNB ที่ซื้อมาทั้งหมดเข้าสู่ Wallet ที่ไม่มีใครสามารถเข้าถึงได้รวมถึง Binance เองด้วย ทำให้เหรียญนั้นไม่สามารถเข้าถึง และนำกลับเข้ามาหมุนเวียนในตลาดได้อีก การเผาเหรียญเป็นกลยุทธ์หนึ่งของ Binance ที่จะรักษามูลค่าให้กับเหรียญในตลาด เสมือนกับวิธีการของเหรียญสกุลอื่นๆ อย่างเช่น Bitcoin ที่ในทุกๆ 4 ปี จะมีปรากฏการณ์ Bitcoin Halving เกิดขึ้นทำให้นักขุดหา Bitcoin ได้ยากมากขึ้น ซึ่งก็ทำให้มูลค่าสูงขึ้นตามมา หรือ Ethereum ที่เปิดให้มี Token บนแพลตฟอร์มบล็อกเชนของตนเอง กว่า 1000 Token เพื่อเพิ่มความต้องการใช้เหรียญ ETH ในการจ่ายค่าธรรมเนียม (Gas) การเผาเหรียญของ BNB เองก็เป็นการลดจำนวนทรัพยากรเหรียญลงเรื่อยๆ ในขณะที่ความต้องการเหรียญคงที่ หรืออาจมากขึ้นเนื่องจากคนต้องการใช้ BNB จ่ายค่าธรรมเนียมในการเทรดกับทาง Binance และส่งผลโดยตรงทำให้มูลค่าเหรียญให้สูงขึ้นเนื่องจากเป็นทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด ในขณะที่ความต้องการมากขึ้นเป็นไปตามหลักเศรษฐศาสตร์ในเรื่องของอุปสงค์ อุปทาน
การเป็น Exchange อันดับ 1 อย่าง Binance เป็นข้อได้เปรียบที่คนอื่นสู้ได้ยาก ไม่พอ Binance ยังเป็นบริษัทที่พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญกับเหรียญ BNB ของตนเองอย่างมาก เรียกได้ว่าออกแบบมาได้ดีจริงๆ เหรียญ BNB Coin หรือเหรียญที่ได้รับความนิยมบนเว็บเทรด Binance สามารถนำมาลดค่าธรรมเนียมในการเทรดได้ นำมาเก็งกำไรและสุดท้ายในอนาคตจะสามารถนำมาใช้บนเว็บเทรด Binance Chain ได้