เปลี่ยนโลก พร้อมกับกองทุน K-CHANGE-A(A) หุ้นนวัตกรรม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม หลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย

1 Min Read

เปลี่ยนโลก พร้อมกับกองทุน K-CHANGE-A(A) หุ้นนวัตกรรม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม หลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย ‘เปลี่ยน’ การลงทุน ‘เป็น’ โอกาสทำกำไรตามเทรนด์โลก การพัฒนานวัตกรรมอย่างรวดเร็ว ช่วยให้เข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆ ได้ง่ายขึ้นนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนทั่วโลกการตื่นตัวของกระแสรักษ์โลกก่อให้เกิดพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป ธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมจะเติบโตไปพร้อมกับสังคมอย่างยั่งยืนด้วยกองทุน K-CHANGE-A(A) ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่เน้นการลดคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชน จะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมหาศาล ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Baillie Gifford Positive Change Fund – Class B accumulation (GBP) ที่มีผลงานโดดเด่น เน้นหุ้นของบริษัทที่สร้างผลเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Positive Impact)

ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนหลักเทียบกับดัชนีชี้วัด K-CHANGE-A(A) ผลงานโดดเด่น 5 ดาว Morningstar และติดอันดับ Top Quartile ตั้งแต่จัดตั้ง ติดอันดับ 5 ดาว Morningstarและติดอันดับ Top Quartile นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน ข้อมูลที่มาจาก Morningstar ณ วันที่ 31 ธ.ค. 64 / กองทุนหลักจัดตั้งเมื่อ 3 ม.ค. 60 / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้ยืนยันอนาคต

คัดเลือกหุ้นทั่วโลกที่มีการดำเนินธุรกิจซึ่งส่งผลบวกต่อสังคม (Positive Impact)หรือสนับสนุนให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นใน 4 ด้าน ได้แก่ ความครอบคลุมทางสังคมและการศึกษา ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม การดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิต และการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม และการลงทุนสอดคล้องตามเป้าหมาย UN Sustainable Development Goals ขององค์การสหประชาชาติซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนใน 17 ด้าน

สามารถวัดผลการเปลี่ยนแปลง ที่ดีขึ้นออกมาเป็นตัวเลขได้ (Quantification) เพื่อให้เห็นผลลัพธ์จากการลงทุนที่ชัดเจนกองทุนหลักมีส่วนช่วยลดทรัพยากร ดังนี้

ภาวะตลาดในปัจจุบันมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้นการจับจังหวะตลาดเพื่อเข้าลงทุนด้วยการดูหุ้นรายตัวจึงทำได้ยาก และมีโอกาสที่จะขาดทุนอยู่สูง อย่างไรก็ดี แนะนำให้ลงทุนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ด้วยวิธีการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (Dollar Cost Average: DCA) เพื่อลดความเสี่ยงอันเกิดจากความผันผวน การลงทุนในตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง นักลงทุนจึงควรตั้งเป้าหมายการลงทุนอย่างน้อย 5 ปี เนื่องการลงทุนในระยะสั้นมีโอกาสเห็นการขาดทุนได้สูงจากปัจจัยลบต่างๆ ขณะที่การลงทุนในระยะยาวจะเปิดโอกาสให้ราคาสามารถสะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของธุรกิจได้เต็มที่ จึงช่วยลดโอกาสขาดทุนจากการลงทุนได้

การลงทุนของผู้จัดกองทุนหลักเน้นลงทุนในระยะยาว 5-10 ปี จึงไม่มีการปรับพอร์ตการลงทุนจากการปรับฐานของตลาดในระยะสั้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยผู้จัดการกองทุนหลักอาจใช้โอกาสที่ราคาย่อตัวลงในการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นบางตัวที่ระดับราคาน่าสนใจมากขึ้น ส่วนแนวทางการดำเนินนโยบายทางการเงินที่ตึงตัวของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อพอร์ตคือการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าอาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วและมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยอาจเห็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ถึง 4 ครั้งในปี 2565 อีกทั้งยังอาจใช้นโยบาย Quantitative Tightening (QT) ซึ่งเป็นการดึงสภาพคล่องออกจากระบบหลังการสิ้นสุดนโยบาย QE ทำให้หุ้น Growth Stock ซึ่งมักซื้อขายที่ P/E ระดับสูง และที่ผ่านมาสามารถสร้างกำไรให้กับนักลงทุนได้เป็นจำนวนมากถูกนักลงทุนขายทำกำไรออกมาก่อนเพื่อลดความเสี่ยง ดังนั้น การปรับฐานของตลาดหุ้นในกลุ่มนี้จึงส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของ K-CHANGE ที่เน้นลงทุนในหุ้น Growth Stock ในระยะสั้น

กองทุน K-CHANGE-A(A) กองทุนหุ้นนวัตกรรม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมทั่วโลกลงทุนในหุ้นที่มาแรงเติบโตตามเทรนด์โลก เพื่อโอกาสทำกำไรที่เพิ่มขึ้นเริ่มต้นเพียง 500 บาท

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อผู้แนะนำการลงทุน โทร. 02-6733888 กด 1  ลงทุนเลย

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

Share this Article
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่