รวมเทคนิคการต่อประกันรถยนต์ ทำอย่างไรให้ถูกลง

1 Min Read

การประกันภัยรถยนต์ จัดเป็นการประกันวินาศภัยประเภทหนึ่ง ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยเมื่อเกิดความสูญเสียหรือความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยน การประกันความเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ ประกอบด้วย ความเสียหายที่เกิดแก่รถยนต์ และความเสียหายที่รถยนต์ได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์นั้น สำหรับใครๆ ที่กำลังเตรียมต่อประกันรถยนต์ อยู่นั้น วันนี้ Za.in.th เอาเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ในสิ่งที่คุณต้องรู้ หรือเช็คก่อน ต่อประกันรถยนต์ เพื่อให้จ่ายเบี้ยประกันให้ถูกลง

ความคุ้มครองที่ต้องการ

โดยคุณต้องรู้ว่าหรือวางแผนกับตัวเองก่อนว่าต้องการ ความคุ้มครองหลักๆ ที่ประกันรถยนต์ทั่วไปมีคือ ความคุ้มครองบุคคลอื่น รถคันเอาประกัน รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม พอรู้แล้ว คุณก็มาดูลักษณะรถของคุณ การขับขี่ของคุณ ระยะทางการใช้งานรถของคุณ เพราะบางทีคุณไม่ค่อยได้ใช้รถ ขับนานๆ ที อาจจะไม่จำเป็นต้องซื้อประกันรถยนต์ชั้นหนึ่งราคาแพง แต่อาจมองที่ตัวถูกลงไป เพื่อเป็นการประหยัดโดยไม่เสียเงินเกินสิ่งที่ต้องการ เป็นต้น

No-claims ช่วยลดเบี้ยประกันได้มาก

ส่วนลดเบี้ยประกันสำหรับผู้เอาประกันภัยรถยนต์ที่มีประวัติดี ไม่มีประวัติการเคลมกับบริษัทประกันมาก่อน หรือ มีประวัติการเคลม แต่สาเหตุนั้นต้องมาจากความประมาทของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ตัวผู้เอาประกันเอง ซึ่งต้องระบุได้ว่าคู่กรณี หรือฝ่ายผิดคือใคร เพราะบริษัทประกันสามารถเรียกค่าเสียหายที่บริษัทประกันได้จ่ายไปคืนจากบุคคลนั้นได้ รณีที่เกิดอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ อาทิเช่น รอยถลอกจากการถอยรถสีผนังแนะนำว่าให้รับผิดชอบค่าซ่อมเองดีกว่า เพราะอาจได้ส่วนลดค่าเบี้ยประกันมากกว่าเงินค่าซ่อม

เปรียบเทียบราคาจากหลากหลายโบรกเกอร์

ก่อนการซื้อประกันรถยนต์ หรือการต่อประกันรถยนต์นั้น การเปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันรถยนต์คือสิ่งที่ควรทำ เพราะเพียงแค่ว่าในปีที่ผ่านมาคุณไม่เคยเคลมเลย การต่อประกันเจ้าเดิมอย่างเดียวจะทำให้คุณได้เบี้ยประกันในราคาที่สมเหตุสมผล และเหมาะสมกับคุณที่สุด เพราะฉะนั้น เปรียบเทียบก่อนซักนิด

ระบุผู้ขับขี่ และเพิ่มค่าเสียหายส่วนแรก

การระบุผู้ขับขี่กับบริษัทประกันนั้น ว่ารถคันที่เอาประกันจะขับขี่โดยคนคนนี้คนเดียว จะทำให้บริษัทประกันรู้สึกว่ารถคันนี้มีความเสี่ยงที่น้อยกว่า คันที่ไม่ระบุผู้ขับขี่ คือใครจะขับก็ได้ เพราะฉะนั้น เบี้ยประกันก็จะถูกลงราว 5-20% เลยทีเดียว ซึ่งขึ้นอยู่กับอายุของผู้ขับขี่ที่ระบุด้วย โดยคุณสามารถระบุผู้ขับขี่ได้มากที่สุด 2 คน และวัดจากคนที่อายุน้อยที่สุด และการตกลงของผู้เอาประกัน และบริษัทประกัน โดยเป็นการตกลงว่า ถ้ามีการเคลมเกิดขึ้น ผู้เอาประกันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนแรกเอง ซึ่งควรอยู่ที่ราว 2,000-5,000 บาท อย่ามากกว่านี้ เพราะจะไม่คุ้ม และบริษัทจะนำจำนวนนี้ไปหักจากเบี้ยประกันที่เราต้องจ่าย สมมติว่า เบี้ยประกันของเราอยู่ที่ 20,000 บาท ค่าเสียหายส่วนแรกอยู่ที่ 5,000 บาท คุณก็จ่ายเบี้ยแค่ 15,000 บาท

ถ้ามองว่าสามารถแบกรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเมื่อยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้ประกันรถยนต์ก็อาจไม่จำเป็น แต่ถ้ามองว่าการทำ ประกันรถยนต์ เป็นการทำเพื่อความสบายใจ หรือทำเพื่อเป็นหลักประกันช่วยแบ่งภาระค่าใช้จ่ายในยามที่เกิดอุบัติเหตุก็นับว่าเป็นเรื่องคุ้มค่าที่จะลงทุน

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

Share this Article
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่