10 เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล ยี่ห้อไหนดี วัดมวลไขมัน วัดมวลร่างกายได้ 2022

radaboot.p
radaboot.p
6 Min Read

ต้องยอมรับเลยว่าปัจจุบันผู้คนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายกันมากขึ้น ซึ่งเป้าหมายการดูแลสุขภาพของคนส่วนใหญ่ที่เห็นได้ชัด มักจะเป็นการ ลดน้ำหนักเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปร่าง มีการออกกำลังกายเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกิน และเสริมสร้างกล้ามเนื้อเพื่อให้เกิดความแข็งแรง เราจึงจะพบเห็นคนส่วนใหญ่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตกันมากขึ้น เช่น การรับเลือกประทานอาหารแบบคลีน การรับประทานอาหารแบบคีโต (Ketogenic Diet) หรือการควบคุมอาหารแบบวิธี IF (Intermittent Fasting) เป็นต้น ตลอดจนการมองหาตัวช่วยเสริมต่าง ๆ ทั้งในเรื่องของการบริโภคอาหารและการออกกำลังกาย

เครื่องชั่งน้ำหนัก ถือว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญของคนที่ต้องการดูแลสุขภาพ เพราะเป็นตัวช่วยที่ทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักของร่างกายได้ดีที่สุด และในปัจจุบันเครื่องชั่งน้ำหนักก็มีความสามารถในการที่จะช่วย วิเคราะห์และคำนวณองค์ประกอบของร่างกายได้อย่างอัจฉริยะ โดยใช้หลักการทำงานแบบปล่อยกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ ที่ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ เมื่อขึ้นชั่งกระแสไฟฟ้าก็จะทำงานเพื่อวัดความต้านทานไขมันของร่างกาย คำนวณและวัดผลแปรออกมาเป็นค่าต่าง ๆ เช่น ค่าไขมัน ค่ามวลกล้ามเนื้อ ค่ามวลกระดูก ค่าดัชนีมวลกาย และค่าอื่น ๆ อีกมากมาย

ซึ่งเครื่องชั่งน้ำหนักประเภทนี้สามารถที่จะบันทึกและจดจำข้อมูลของผู้ใช้งานได้ และยังสามารถ เชื่อมต่อกับมือถือผ่าน Bluetooth หรือ WI-FI เพื่อแสดงผลผ่าน Application ที่รองรับ ทำให้เราสามารถ ติดตามการเปลี่ยนแปลง ค่าการแสดงผลวิเคราะห์ร่างกายต่าง ๆ ได้ทุกเวลา พร้อมทั้งยังสามารถช่วยเปรียบเทียบและ ช่วยวางแผนสุขภาพให้บรรลุถึงเป้าหมายตามที่ตั้งใจไว้ได้อีกด้วย วันนี้บทความจาก za.in.th อยากจะมาแนะนำ “10 เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล ยี่ห้อไหนดี วัดมวลไขมัน วัดมวลร่างกายได้ 2022” ให้กับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยในการวางแผนรับมือกับสุขภาพและการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย


Tanita รุ่น BC-731

Tanita รุ่น BC-731 เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล ที่สามารถวัดองค์ประกอบในร่างกายได้อย่างแม่นยำ ตัวฐานเครื่องชั่งทำจากวัสดุกระจกนิรภัยด้วยการออกแบบที่บางเฉียบและน้ำหนักเบา มีปุ่มกดแสดงด้านหน้าฐานด้วยระบบสัมผัส หน้าจอแสดงผล LED ขนาดใหญ่ช่วยให้อ่านผลได้ง่ายและชัดเจน มีความสามารถในการ วัดผลขององค์ประกอบร่างกายทั้งหมด 8 อย่าง ได้แก่ วัดเปอร์เซ็นต์น้ำในร่างกาย (Total Body Water), วัดระดับไขมันที่เกาะตามบริเวณอวัยวะในช่องท้อง (Visceral Fat), วัดมวลกระดูก (Bone Mass), วัดมวลกล้ามเนื้อ (Muscle Mass), บอกอัตราการเผาผลาญพลังงานขั้นพื้นฐานและอายุเทียบ (BMR & Metabolic Age), บอกสัดส่วนกล้ามเนื้อและไขมัน (Physical Rating), บอกค่าดัชนีมวลกาย (BMI) พร้อมทั้งยังสามารถใช้งานและ บันทึกจดจำข้อมูลส่วนตัวได้ถึง 5 คน โดยที่ก็สามารถเรียกดูค่าการวัดครั้งที่ผ่านมาได้อีกด้วย ใช้งานสะดวกและง่าย ไม่ซับซ้อน ข้อเสีย เครื่องมีขนาดเล็กอาจจะทำให้ไม่พอเหมาะกับขนาดเท้าผู้ชายได้ และ ไม่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลเพื่อแสดงผลทางมือถือได้

  • รับน้ำหนักได้สูงสุด 150 กิโลกรัม
  • ขนาดสินค้า 210 x 297 x 25 มิลลิเมตร
  • ใช้แบตเตอรี่ AAA 4 ก้อน
  • ราคาโดยประมาณ 3,920 – 4,900 บาท

 


Omron รุ่น HBF-222T

เครื่องชั่งน้ำหนักที่จะช่วยให้เราสามารถเช็กมวลไขมันและมวลร่างกายได้ทุกที่ทุกเวลากับ Omron รุ่น HBF-222T เป็นเครื่องชั่งน้ำหนักที่นอกจากจะแสดงผลทางหน้าจอเครื่องเป็นหลักแล้ว ก็ยังสามารถ เชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟน เข้าด้วยกันได้อีกด้วย เพื่อทำการส่งข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากเครื่องชั่ง ไปยัง แอปพลิเคชัน Omron Connect เพื่อทำการจัดเก็บเป็นบันทึกข้อมูลเอาไว้ให้เราได้ติดตามและตรวจสอบสุขภาพร่างกายได้อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ทำให้เราสามารถรับทราบได้ถึง ค่าดัชนีมวลกาย (BMI), ค่าไขมันในร่างกาย (FAT), ค่าไขมันใต้ผิวหนัง, ค่าไขมันในช่องท้อง, ค่าเปอร์เซ็นต์กล้ามเนื้อโครงร่างทั้งตัว ลำตัว ขา แขน, อัตราการเผาผลาญพลังงานขณะอยู่เฉย และสามารถบอกได้ถึงอายุของร่างกายจากการได้วัดประมวลผลทั้งหมด บอกค่าทั้งแบบ ตัวเลข และแบบ กราฟแผนภูมิ ที่ช่วยให้เราอ่านค่าวัดผลได้อย่างเข้าใจง่ายและสะดวกมาก ๆ เครื่องชั่งตัวนี้สามารถ บันทึกข้อมูลส่วนตัวได้ 4 คน และ เก็บข้อมูลได้นานถึง 90 วัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมอาหาร โดยการใช้ผลจากการชั่งน้ำหนักมาเป็นข้อมูลในการเปรียบเทียบและจัดระเบียบวินัยให้กับการดูแลสุขภาพ

  • รับน้ำหนักได้สูงสุด 150 กิโลกรัม
  • ขนาดสินค้า –
  • ใช้แบตเตอรี่ –
  • ราคาโดยประมาณ 3,787 – 5,050 บาท

 


Shaper รุ่น iSB-50

หากใครที่กำลังตามหาเครื่องชั่งน้ำหนักแบบวัดไขมันและมวลร่างกายได้ใน ราคาที่ไม่แรง แถมยังมีฟังก์ชันเชื่อมต่อบลูทูธได้อีก ต้อง Shaper รุ่น iSB-50 ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ White Backlight ให้ความทันสมัยและดูดี เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับมือถือก็จะมีการใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Moving Life ที่สามารถแสดงผลการวัดองค์ประกอบของร่างกายเป็นตัวเลขพร้อม แจ้งระดับเกณฑ์การวัด ว่าเรามีสุขภาพอยู่ในระดับมาตรฐาน ปกติ สูง หรือต่ำ ซึ่งสามารถวัดได้ทั้งเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย, วัดเปอร์เซ็นต์น้ำในร่างกาย, วัดมวลกระดูก, วัดมวลกล้ามเนื้อ, วัดไขมันในช่องท้องและไขมันใต้ผิวหนัง, วัดโปรตีนในร่างกาย, วัดดัชนีมวลกาย , บอกได้ถึงสัดส่วนกล้ามเนื้อและไขมัน, บอกอายุร่างกาย  รวมไปถึงวัดอัตราการเผาผลาญที่สามารถบอกจำนวนแคลลอรีและพลังงานที่ใช้ประจำวันได้ มีฟังก์ชันการจดจำผู้ใช้งานได้เพียงบุคคลเดียว ข้อเสีย ด้วยตัวเครื่องเป็นสีดำเงา เมื่อขึ้นชั่งแล้วจะ เกิดรอยเท้าได้ชัดเจน จำเป็นต้องคอยหมั่นเช็ดเพื่อทำความสะอาดอยู่เสมอ

  • รับน้ำหนักได้สูงสุด 180 กิโลกรัม
  • ขนาดสินค้า 26 x 26 x 2.3 เซนติเมตร
  • ใช้แบตเตอรี่ AAA 4 ก้อน
  • ราคาโดยประมาณ 799 – 1,790 บาท

 


Bodivis รุ่น H1

เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลอัจฉริยะ Bodivis รุ่น H1 ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ เพราะเป็นเครื่องชั่งน้ำหนักที่มีกระแสความฮอตฮิตในโลกออนไลน์อย่างมาก ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกายที่แม่นยำ ผ่านการทดสอบ 3 เทคโนโลยี ทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ ทำให้ วัดผลได้ถึง 21 ค่า ซึ่งได้แก่ น้ำหนัก, เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย, มวลไขมัน, กล้ามเนื้อ, ดัชนีมวลกาย, โปรตีนในร่างกาย, ปริมาณน้ำในร่างกาย, กระดูก, มวลกล้ามเนื้อลาย, แนะนำการควบคุมไขมัน, ระดับความอ้วน, แบบฟอร์มทางร่างกาย, ดัชนีร่างกาย, อายุร่างกาย, แนะนำการควบคุมไขมัน, แนะนำการควบคุมกล้ามเนื้อ, ร่างกายปราศจากไขมัน, การเผาผลาญพลังงานขั้นพื้นฐานของร่างกาย, ดัชนีไขมันในช่องท้อง, คำแนะนำการออกกำลังกาย และคำแนะนำการรับประทานอาหาร โดยตัวเครื่องจะทำงานเชื่อมต่อกับ สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตด้วยบลูทูธ ผ่าน Bodivis Application ที่รองรับภาษาไทยและภาษาอื่น ๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลที่มีความสามารถเจ๋งสุด ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนมีโค้ชมาดูแลสุขภาพแบบส่วนตัวเลยจริง ๆ 

  • รับน้ำหนักได้สูงสุด 150 กิโลกรัม
  • ขนาดสินค้า 320 x 320 x 23 มิลลิเมตร
  • ใช้แบตเตอรี่ AAA 4 ก้อน
  • ราคาโดยประมาณ 3,000 บาท

 


Garmin รุ่น Index S2

หากคุณเป็นนักกีฬาหรือผู้ที่ออกกำลังกายที่ต้องการวัดผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ แนะนำเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล Garmin รุ่น Index S2 ยี่ห้อดังที่เชี่ยวชาญเรื่องนวัตกรรมการดูแลสุขภาพของคนยุคใหม่ ด้วยดีไซน์ที่เพรียวบาง เรียบหรู ทันสมัย แสดงผลข้อมูลบนหน้าจอที่มีความละเอียดสูง มีให้เลือกทั้งแบบ สีดำและสีขาว สามารถวัดน้ำหนัก, ดัชนีมวลกาย, มวลกระดูก, มวลกล้ามเนื้อติดกระดูก, เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย, เปอร์เซ็นต์น้ำในร่างกาย พร้อมยังสามารถดูสถิติแนวโน้มน้ำหนัก ย้อนหลังได้ 30 วัน เพื่อเช็กและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้อย่างง่าย สามารถดูผ่านทั้งหน้าจอเครื่องชั่ง และผ่านการเชื่อมต่อ WI-FI จากเครื่องกับมือถือ เพื่อซิงค์ข้อมูลไปยังแอปพลิเคชัน Garmin Connect ก็ได้ด้วยเช่นกัน สามารถเลือกให้แสดงผลได้ทั้งแบบตัวเลขและแบบกราฟเพื่อการเข้าใจที่ง่ายมากขึ้น และยังรองรับผู้ใช้งานเพื่อสร้างโปรไฟล์ การจดจำได้มากถึง 16 คน และ เก็บข้อมูลได้นานถึง 9 เดือน นอกจากนี้หน้าจอแสดงผลเครื่องชั่งก็ยังสามารถบอกถึงอุณหภูมิและสภาพอากาศในแต่ละวันได้อีกด้วย

  • รับน้ำหนักได้สูงสุด 180 กิโลกรัม
  • ขนาดสินค้า 320 x 310 x 288 มิลลิเมตร
  • ใช้แบตเตอรี่ AAA 4 ก้อน
  • ราคาโดยประมาณ 4,990 บาท

 


Beurer รุ่น BF 950

Beurer รุ่น BF 950 เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล สัญชาติเยอรมัน เครื่องนี้ทำจากกระจกนิรภัยที่แข็งแรง ทนทาน พื้นผิวเครื่องชั่งมีการเคลือบด้วย ITO มีคุณสมบัติในการนำไฟฟ้าได้ดี ส่งผลให้มีการวิเคราะห์ร่างกายได้แม่นยำ แสดงผลตัวเลขขนาด 23 มิลลิเมตร ผ่านหน้าจอไฟ LED สามารถเชื่อมต่อบูลทูธกับสมาร์ทโฟน เพื่อแสดงผลผ่านแอปพลิเคชัน Beurer Health Manage ได้อีกด้วย แสดงถึงค่าน้ำหนัก, เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย, เปอร์เซ็นต์น้ำในร่างกาย, มวลกล้ามเนื้อ, มวลกระดูก, ดัชนีมวลกาย, และบอกถึงอัตราการเผาผลาญและพลังงานที่ใช้ได้ในแต่ละวัน และที่พิเศษกว่าเครื่องชั่งน้ำหนักอื่น ๆ คือ มีโหมดการตั้งครรภ์ เพื่อควบคุมน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ได้ (ไม่รวม BIA) คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยและไร้กังวล และไม่เพียงแต่ใช้เครื่องชั่งสำหรับคนได้เท่านั้น ยังมีฟังก์ชันสำหรับการชั่งสิ่งของ พร้อมทั้งสามารถเปลี่ยนหน่วยการวัดได้ถึง 3 หน่วย คือ กิโลกรัม ปอนด์ และสโตน นอกจากนั้นก็ยังมีระบบการแจ้งเตือนจากน้ำหนักเกิน ตั้งค่าระดับการออกกำลังกายได้ 5 ระดับ และ บันทึกข้อมูลส่วนบุคคลได้ 8 คน เรียกได้ว่าถ้าใครได้เครื่องนี้ไปคุ้มค่าจริง ๆ เพราะสามารถวัดผลและให้ข้อมูลอื่น ๆ ได้หลากหลาย

  • รับน้ำหนักได้สูงสุด 180 กิโลกรัม
  • ขนาดสินค้า 32 x 31 x 24 เซนติเมตร
  • ใช้แบตเตอรี่ AAA (1.5 V) 4 ก้อน
  • ราคาโดยประมาณ 3,450 – 3,800 บาท

 


Yunmai Pro

อีกหนึ่งสินค้าที่วางขายภายใต้แบรนด์ Xiaomi เครื่องชั่งน้ำหนักประสิทธิภาพสูง Yunmai Pro มาในรูปลักษณ์ที่บางเฉียบ น้ำหนักเบา ผลิตจากวัสดุกระจกที่เคลือบด้วย ITO พร้อมชิป BIA ที่มีความแม่นยำสูงในการวัดน้ำหนักและองค์ประกอบร่างกาย มีหน้าจอแสดงผลไฟ LED แบบซ่อน ให้ความรู้สึกสวยงามและทันสมัย ใช้พลังงานแบตเตอรี่ Li-Po 1,000 mAh ร่วมกับพอร์ตชาร์จ Micro USB ที่ให้ความอึด ใช้งานได้ยาวถึง 180 วัน จากการชาร์จเพียงครั้งเดียว เครื่องชั่งตัวนี้สามารถวัดผลและประเมินได้ถึง น้ำหนัก, ความอ้วน, ดัชนีมวลกาย, มวลกระดูก, มวลกล้ามเนื้อ, เปอร์เซ็นต์ไขมันอวัยวะภายใน, เปอร์เซ็นต์น้ำในร่างกาย, อายุของร่างกาย และอัตราการเผาผลาญ สามารถเช็กและตรวจสอบได้ทางหน้าจอแสดงผล และ รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ 5.0 สำหรับการรับส่งข้อมูลน้ำหนักของเราจากเครื่องชั่งได้เร็วและเสถียรมากขึ้น โดยต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Android 4.4. และ อุปกรณ์ iOS 9.0 ขึ้นไป เพื่อซิงค์กับ Yunmai App ทำการบันทึกและจัดเก็บข้อมูลของเราไว้สำหรับติดตามทุกการเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้ตลอด 24 ชั่วโมง

  • รับน้ำหนักได้สูงสุด 150 กิโลกรัม
  • ขนาดสินค้า 11.81 x 11.81 x 0.79 นิ้ว
  • แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน พอร์ตชาร์จ Micro USB
  • ราคาโดยประมาณ 1,490 บาท

 


InBody รุ่น Dial

InBody รุ่น Dial เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะจาก ประเทศเกาหลีใต้ ต้องบอกเลยว่าเป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของการผลิตเครื่องวิเคราะห์ร่างกายที่ให้ผลแม่นยำสูง ด้วยเทคโนโลยีระดับ Hi-end ที่ทำให้เครื่องชั่งน้ำหนักตัวนี้สามารถวิเคราะห์การวัดผลค่าต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพสูงเทียบเท่าเครื่องวิเคราะห์ร่างกายที่ราคาหลักแสนได้ ด้วยระบบการวิเคราะห์จากขั้วไฟฟ้า 8 จุดสัมผัส คือ ที่ฐานวางเท้า 4 จุด และที่ด้ามจับนิ้วมือ 4 จุด ส่งสัญญาณทั่วร่างกายทำให้ได้ผลคำนวณที่แม่นยำทันทีตรงหน้าจอแสดงผล ไม่ว่าจะเป็นค่าของ น้ำหนัก, ดัชนีมวลกาย, มวลกล้ามเนื้อ, มวลไขมัน, ไขมันในช่องท้อง, และการบอกถึงอัตราการเผาผลาญพลังงานขั้นพื้นฐาน หรือก็สามารถที่จะติดตามค่าและบันทึกผลร่างกายผ่านแอปพลิเคชัน InBody ได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งจะแสดงผลออกมาเป็นกราฟเพื่อให้เราอ่านค่าและเปรียบเทียบได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังสามารถแชร์ผลค่าของตัวเองหรือจัด Ranking แข่งขันกับบุคคลอื่น เพื่อให้เกิดการพัฒนาตัวเองไปสู่เป้าหมายในการดูแลที่ดีขึ้นได้ดีด้วย ข้อเสีย คือ มีจำนวนการวัดค่าที่ไม่หลากหลาย เท่าเครื่องชั่งน้ำหนักยี่ห้ออื่น ๆ แถมยังมี ราคาที่สูงกว่าอีกด้วย แต่หากพูดถึงการทำงานและประสิทธิภาพที่ในระดับโลกยอมรับแล้ว ก็ถือว่าเป็นเครื่องชั่งน้ำหนักที่น่าลงทุน อาจจะจ่ายแพงสักหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้มีความน่าเชื่อถือสูง ตัวเครื่องมีความทนทาน และใช้งานได้ยาวนานหลายปี

  • รับน้ำหนักได้สูงสุด 150 กิโลกรัม
  • ขนาดสินค้า 31.03 x 35.64 x 5.83 เซนติเมตร
  • แบตเตอรี่ AA 4 ก้อน
  • ราคาโดยประมาณ 11,800 บาท

 


Pando

Pando เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล ราคาเบาหวิว แต่ความสามารถนั้นไม่เบาเลยทีเดียว ภายนอกถูกออกแบบมาให้มีความเป็นมินิมอล เพื่อเหมาะกับการตกแต่งบ้านได้ทุกสไตล์ ฐานรองด้านล่างเสริมด้วย วัสดุซิลิกาเจลที่ช่วยป้องกันการพลิก ของเครื่องชั่งน้ำหนัก หน้าจอแสดงผลด้วยไฟ LED ที่ให้แสงสว่างและความคมชัดสูง พร้อมทั้งมี ระบบเปิด-ปิด เครื่องได้อัตโนมัติ ช่วยให้ประหยัดพลังงาน มีความสามารถในการคำนวณและวัดผลของค่าต่าง ๆ ในร่างกายได้ถึง 12 ค่า คือ น้ำหนัก, ดัชนีมวลกาย, อัตราการเผาผลาญขั้นพื้นฐานและแคลอรี, เปอร์เซ็นต์น้ำในร่างกาย, เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย, ไขมันอวัยวะภายใน, มวลกระดูก, มวลกล้ามเนื้อ, มวลกล้ามเนื้อลาย, โปรตีน, และอายุร่างกาย โดยสามารถรับทราบผลได้ผ่านการ เชื่อมต่อผ่านบูลทูธกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและตรวจสอบได้ที่แอปพลิเคชัน Pando ได้ง่าย ๆ โดยทุกครั้งที่ทำการชั่งน้ำหนักระบบก็จะส่งข้อมูลไปเก็บไว้อัตโนมัติ ที่สำคัญยังมี เซ็นเซอร์วัดความเครียด เพื่อดูสภาวะการทำงานของระบบภายในร่างกายว่ามีความผิดปกติอย่างไรบ้างอีกด้วย เป็นเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลอีกทางเลือกของผู้ที่มีงบประมาณจำกัด เพราะราคาถูกมาก

  • รับน้ำหนักได้สูงสุด 150 กิโลกรัม
  • ขนาดสินค้า –
  • แบตเตอรี่ AAA (1.5 V) 4 ก้อน
  • ราคาโดยประมาณ 399 บาท

 


Amazfit

Amazfit เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลดีไซน์เรียบง่ายสุดหรู ตัวเครื่องสวยสะดุดตาด้วยการ ไล่ระดับแสงออโรร่า ผลิตจากกระจกนิรภัยและพลาสติกคุณภาพสูง หน้าจอแสดงผลแบบซ่อน LCD มีความสามารถในการวิเคราะห์คำนวณองค์ประกอบร่างกายเพื่อชี้วัดสุขภาพได้อย่างแม่นยำ ทั้ง น้ำหนัก, อัตราไขมันในร่างกาย, ไขมันอวัยวะภายใน, ไขมันใต้ผิวหนัง, มวลกล้ามเนื้อ, มวลกระดูก, มวลกล้ามเนื้อลาย, โปรตีน, น้ำ, BRM, BMI, อายุร่างกาย, ประเภทของร่างกาย, คะแนนร่างกาย, การเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื้อ และน้ำหนักตัวในอุดมคติ พร้อมทั้งสามารถ วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ขณะยืนชั่งน้ำหนักได้อีกด้วย มีระบบการวิเคราะห์ ประเมิน และให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพจากเครื่องชั่งน้ำหนักกับสมาร์ทโฟนเพื่อซิงค์ข้อมูลไปยังแอปพลิเคชัน Zepp ที่รองรับการเชื่อมต่อทั้ง WI-FI และ Bluetooth ด้วยการคำนวณทุก ๆ 30 นาที เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงและตรวจสอบได้ตลอดเวลา ทั้งยัง รองรับโหมดกีฬา 18 ประเภท สำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่ชอบเล่นกีฬาอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังสามารถบันทึกและสร้างโปรไฟล์จดจำให้กับเครื่องชั่งน้ำหนักได้ถึง 10 คน เหมาะสำหรับเป็นเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลคู่ใจทุกคนในครอบครัว

  • รับน้ำหนักได้สูงสุด 180 กิโลกรัม
  • ขนาดสินค้า 320 x 320 x 25 มิลลิเมตร
  • แบตเตอรี่ AAA (1.5 V) 4 ก้อน
  • ราคาโดยประมาณ 1,490 – 1,690 บาท

 


หวังว่าประโยชน์จากการใช้ เครื่องน้ำหนักดิจิตอลวัดมวลไขมันและมวลร่างกาย หรือที่เรียกว่าการวัดองค์ประกอบของร่างกายนี้ จะช่วยให้ใครหลาย ๆ คนเล็งเห็นการดูแลสุขภาพและอยากที่จะเปลี่ยนแปลงร่างกายให้ดีขึ้นกันได้บ้างนะคะ แต่ถึงอย่างไรการใช้เครื่องชั่งน้ำหนักประเภทนี้ ก็เป็นเพียง ตัวชี้วัดและประเมินระบบภายในร่างกายของเรา ได้เพียงเบื้องต้นและบางส่วนเท่านั้น นอกจากจะดูแลสุขภาพตัวเองด้วยการรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้ว ก็ควรที่จะทำการ ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจสอบหาความผิดปกติของร่างกายและเป็นการป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ ได้นั่นเอง สามารถติดตามบทความได้ใหม่ทาง www.za.in.th

radaboot.p
Author: radaboot.p

TAGGED: , , , , , , , , , , , , , , , , , ,
Share this Article