“การสร้างความมั่งคั่ง” (Wealth Creation) เป็นด่านแรกที่คุณจะต้องฟันฝ่าไปให้ได้หากอยากมั่งคั่ง ร่ำรวย หรือมีอิสรภาพทางการเงินอย่างที่ฝันไว้ ซึ่งคนที่จะสร้างความมั่งคั่งได้ต้อง “รู้หา รู้เก็บ รู้ใช้ และรู้ขยายดอกผล” อย่างสม่ำเสมอจนกลายเป็นนิสัย ต่คนส่วนใหญ่ไม่เป็นเช่นนั้น… บางคนหาเงินได้เยอะ ก็ใช้เยอะ เปลี่ยนมือถือเป็นว่าเล่น ใส่เสื้อผ้าอินเทรนด์ตามกระแส ไม่ใส่ใจที่จะออม ส่วนบางคนบอกอยากออม แต่เงินจะกินในแต่ละเดือนยังแทบไม่พอ จะเอาที่ไหนมาออม ถ้าอย่างนั้นลองปรับเปลี่ยนวิธีคิดเรื่องการจัดการเงินทองซะใหม่สลัดความคิดแบบเดิมๆ ให้สิ้นซากแล้วหันมาสร้างความมั่งคั่งให้ตนเองด้วยการ“วางแผนใช้จ่ายและบริหารหนี้สิน” ให้มี “เงินเก็บออม” ก่อน นั่นแหละคือหัวใจสำคัญของการสร้างความมั่งคั่ง
เก็บออม เก็บเงินใครๆ ก็คงทำเป็นอยู่แล้ว อาจตั้งเป้าเก็บให้ได้อย่างน้อย 10% ของรายได้และควรทำอย่างสม่ำเสมอ รู้หรือไม่ว่าการออมเงินไม่ได้ยากอย่างที่คิด! เพียงแค่ต้องรู้เทคนิคการออมเงินและนำมาปรับใช้กับตนเองให้เป็นนิสัย ยิ่งเป็นมนุษย์เงินเดือน บอกเลยว่าเรื่องการเก็บออมเงินนั้นเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิด แบ่งสัดส่วนเงินให้ชัดเจน ช้อปเท่าไหร่ ออมเท่านั้น! ศึกษาการลงทุนต่าง ๆ หาตัวช่วยดี ๆ ในการจัดการเงิน
สูตรออมเงินที่ดี ต้องเริ่มด้วยการแบ่งสัดส่วนค่าใช้จ่ายให้เป็น
สูตรการออมเงิน ข้อแรกก็คือการแบ่งสัดส่วนของเงินตั้งแต่ที่ได้เงินมา ข้อดีของเทคนิคการแบ่งสัดส่วนของเงินให้ชัดเจนนั้นคือช่วยให้เราสามารถบริหารเงินได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะรู้ว่าเงินที่มีนั้นจะต้องนำไปใช้จ่ายในส่วนใดบ้าง และมีส่วนใดที่เหลือเก็บ หลาย ๆ คนใช้เทคนิคการออมเงินแบบนี้ในการเริ่มเก็บเงินง่าย ๆ และได้ผลมาแล้ว สูตรแบ่งสัดส่วนที่ถูกนิยมใช้กันคือ “50-30-20” ซึ่งจะแบ่งออกเป็น “ค่าใช้จ่ายประจำวัน-ค่าใช้จ่ายส่วนตัว – เงินสำหรับเก็บออม” ยกตัวอย่างให้เข้าใจได้ง่าย ๆ คือ เงินเดือน 20,000 บาท ก็แบ่งเป็น 3 ส่วนทันที ส่วนแรก 50% 10,000 บาท ส่วนที่สองจำนวน 30% 6,000 บาท และส่วนสุดท้าย 20% 4,000 บาท
หักดิบ ช้อปปิ้งจ่ายเท่าไหร่ เก็บเท่านั้น!
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้การออมเงินไม่สำเร็จของมนุษย์เงินเดือนก็คือการช้อปปิ้ง พอเงินเดือนออกปุ๊ปก็อยากจะพุ่งตัวไปซื้อของที่เล็งไว้ทันที จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงเก็บเงินไม่อยู่สักที ดังนั้นใช้จ่ายตามใจสายช้อปจะต้องลองวิธีออมเงินแบบสายแข็ง แต่ทำได้จริง ๆอย่างการเก็บเงินให้เท่ากับที่จ่ายออกไป เช่น หากซื้อรองเท้าคู่ละ 1,200 บาท ก็ต้องหักเงินไปไว้ในบัญชีเงินออมทันที 1,200 เช่นกัน วิธีเก็บเงินวิธีนี้ นอกจากจะช่วยทำให้เก็บเงินได้จริง ๆ แล้ว ยังจะทำให้เราได้คิดแล้วคิดอีกเกี่ยวกับของที่ต้องการซื้อ ว่าเราต้องการสิ่งนั้นจริง ๆ หรือไม่ ซึ่งการใช้เทคนิคการออมเงินแบบนี้ อาจจะทำให้มีเงินเก็บมากกว่าที่หวังไว้ก็ได้ เพราะจะซื้ออะไรก็คิดและทบทวนจนไม่ได้ซื้อ เหลือเงินเก็บอีกเพียบ! ยุคนี้มีตัวช่วยให้เก็บได้แบบนี้จริงๆโดยไม่มีข้ออ้างด้วย
แอปพลิเคชันรายรับรายจ่าย หรือแอปช่วยออมเงินก็น่าสนใจ
ปิดท้ายเทคนิคการออมเงินด้วยการมองหาตัวช่วยดี ๆ อย่างการทำรายรับรายจ่าย ที่ในปัจจุบันนั้นมีแอปพลิเคชันรายรับรายจ่ายให้ดาวน์โหลดมาใช้กันแบบฟรี ๆ หลากหลายแอปซึ่งจะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์และวางแผนการใช้เงินของเราได้ว่ามีรายจ่ายส่วนใดบ้างที่ควรจะต้องลดลง หรือสามารถตัดทอนให้น้อยลงได้ เพื่อให้มีเงินเหลือสำหรับใช้จ่ายและเก็บออมมากยิ่งขึ้น
สูตรเก็บเงินให้รวยสำหรับเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่ไม่ต้องการความยุ่งยาก แต่ละเทคนิคการออมเงินที่เอามาแชร์นั้นไม่ยากจนเกินไป วิธีการออมเงินเหล่านี้ไปปรับใช้กับตัวเองได้เลย จะได้เริ่มเก็บเงินง่าย ๆ กันสักที