หลายๆคนอยากที่จะใช้เวลาวันหยุดไปกับการท่องเที่ยวเปิดหูเปิดตา บนโลกกว้างกับคนพิเศษ อาจเป็นพ่อแม่ เพื่อนสนิท หรือคนรู้ใจ หรืออยากจะเซอร์ไพรส์ใครซักคนด้วยทริปท่องเที่ยวแสนสุข ให้ได้มีเวลาที่แสนพิเศษร่วมกัน ได้พักผ่อนชาร์จแบตร่างกายจากความเหนื่อยล้า พอวางแผนปุ๊บ วันหยุดพร้อม สถานที่พร้อม แต่ติดอยู่อย่างหนึ่งที่สำคัญคือ เงิน นั่นเอง นักศึกษายังเรียนอยู่จะไปเอาเงินจากไหนมาท่องเที่ยวกันนะ Za.in.th จึงรวมเทคนิคเก็บเงินสำหรับคนวัยเรียนมาฝากกัน
การเปิดบัญชีเงินฝากประจำจะช่วยให้เราออมเงินอย่างมีประสิทธิภาพ
การเปิดบัญชีเงินฝากประจำจะช่วยให้เราออมเงินอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ทำให้ไปถึงเป้าหมายในระยะเวลาที่แน่นอน ยกตัวอย่างเช่น เรากำหนดฝากเงิน 10% ของรายได้ทั้งเดือน พอถึงกำหนดแต่ละเดือนเราก็ต้องนำเงินไปฝากธนาคาร โดยมีระยะเวลากำหนดให้เลือก เริ่มจาก 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน 24 เดือน และ 36 เดือน ขึ้นอยู่กับเราเอง โดยระหว่างนี้เราจะไม่สามารถเบิกเงินมาใช้ได้จนกว่าจะครบกำหนด เป็นการสร้างวินัยให้เราวางแผนการใช้เงินและออมเงินให้ตรงกำหนดทุกเดือน นอกจากนี้การฝากประจำยังได้รับดอกเบี้ยสูงอีกต่างหาก ถือว่าเป็นการเพิ่มรายได้อีกทางจากเงินออม
หางานพาร์ทไทม์หรือหารายได้จากความถนัด
ลองมาเปลี่ยนเวลาว่างหลังเลิกเรียนหรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จากการไปเดินเล่นช้อปปิ้ง หรือนอนกลิ้งตีพุงอยู่บ้าน มาเป็นการหางานพาร์ทไทม์ทำกันดีกว่า ยิ่งทุกวันนี้มีงานมากมายที่เปิดโอกาสให้น้อง ๆ นักเรียน นักศึกษา เช่น ร้านฟาสต์ฟู้ด, ร้านกาแฟ, ร้านหนังสือ เป็นต้น การทำงานพาร์ทไทม์นอกจากจะได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ยังช่วยให้เราได้เรียนรู้โลกของธุรกิจ ได้เรียนรู้วิธีการทำงานร่วมกับผู้อื่น ฝึกความอดทน แถมยังได้รายได้เพิ่มขึ้นจากค่าขนมอีกต่างหาก ยังไม่เจองานพาร์ทไทม์ที่ถูกใจ หรือไม่ชอบออกไปทำงานนอกบ้าน ก็สามารถหารายได้จากความถนัดและความชอบส่วนตัวได้อีกทาง เช่น ขายเสื้อผ้าออนไลน์, ขายภาพถ่ายออนไลน์, ทำงานฝีมือขาย, ทำขนมขาย, รับเขียนรีวิวสินค้า เป็นต้น ยิ่งปัจจุบันการซื้อ-ขายสินค้าออนไลน์เป็นเทรนด์ของคนยุคนี้ จึงเปิดโอกาสให้เรามีช่องทางในการหารายได้เสริมที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก สามารถทำที่บ้านหรือรับเป็นจ๊อบ ๆ ได้ ขอเพียงเรามีใจและฝีมือ ก็สามารถเริ่มต้นจากธุรกิจเล็ก ๆ แอบกระซิบว่าเผลอ ๆ ได้เงินมากกว่าค่าขนมทั้งเดือนซะอีก
วางแผนแยกเงินให้เป็นสัดส่วนหรือสร้างเกมการออมเงิน
อีกวิธีสุดคูลในการวางแผนการใช้เงินแต่ละเดือน คือ การแยกเงินใส่ถุงแต่ละวันให้เป็นสัดส่วน โดยการคำนวณเงินจากรายได้ทั้งหมดในแต่ละเดือน หักแบ่งเงินที่ตั้งใจจะเก็บออมไว้ต่างหาก เช่น แบ่งเงินออม 10% เงินที่เหลืออีก 90% ก็นำมาหารเท่าจำนวนวันใส่ถุงแยกไว้ วันไหนเงินเหลือก็กลับมาหยอดกระปุก วิธีนี้จะช่วยให้ใช้เงินอย่างมีวินัย สามารถจำกัดค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ไม่ใช้เงินเกินกำหนดจนหมดก่อนสิ้นเดือน และยังมีเงินออมเพิ่มขึ้นอีกด้วย ใครเป็นคนเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ เก็บแล้วก็ท้อใจ เก็บ ๆ หยุด ๆ หยอดกระปุกเฉย ๆ ก็รู้สึกเบื่อไม่ตื่นเต้นเลย แนะนำให้ลองเอาวิธีที่ฮอตฮิตในโลกออนไลน์มาใช้นั่นคือ การสร้างเกมการออมเงิน โดยเราจะเป็นคนกำหนดเงื่อนไขและกติกาขึ้นมาเอง เช่น เก็บเงินแบงก์ 50, เก็บเฉพาะแบงก์หรือเหรียญใหม่, เก็บแบงก์ที่มีเลขสุดท้ายของวันเกิด หรือนอนดึกต้องโดนปรับเงิน เป็นต้น เท่านี้ก็จะเปลี่ยนความรู้สึกเหมือนโดนบังคับให้กลายเป็นความตื่นเต้นเร้าใจ เพลิดเพลิน
ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
เคยสงสัยกันไหมว่า เงินค่าขนมแต่ละเดือนทำไมหมดไวเหลือเกินทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ซื้ออะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง แต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออกว่าใช้อะไรไปบ้าง ปัญหานี้จะหมดไปถ้าเรารู้จักทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้เป็นนิสัย (จะจดใส่สมุดเล็ก ๆ หรือโหลดแอปฯ มาใช้ก็ตามถนัด) เพราะการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายจะช่วยให้เรารู้ถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของตัวเองว่าในแต่ละวันเราใช้เงินไปกับอะไรบ้าง บางอย่างอาจจะเป็นของฟุ่มเฟือยไม่จำเป็น หรือเป็นค่าใช้จ่ายที่เราคิดว่าไม่มากแต่พอคำนวณรวมกันออกมาทั้งเดือนถึงกับต้องกุมขมับ เช่น ของกินจุกจิก, กาแฟ, เสื้อผ้า, เครื่องสำอาง ฯลฯ เมื่อเราทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายแล้วก็จะสามารถควบคุมและลดค่าใช้จ่ายส่วนที่ไม่จำเป็นออกได้ ทำให้สามารถวางแผนการใช้เงินได้มีประสิทธิภาพ และมีเงินสำหรับเก็บออมมากขึ้น