เวลาที่เราเรียนหนึ่งสือการวัดและประเมินผลการเรียนก็จะใช้เกรด A B C D F ในการวัดความสำเร็จในการเรียน Za.in.th จึงเอามาใช้ในการวัดความมั่งคั่งทางการเงิน เพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบว่า ความมั่งคั่งทางการเงินเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ เราอยู่ในระดับใด โดยที่ แม้เราเงินเดือนอาจจะน้อยกว่าแต่ถ้าเรามีความมั่นคงทางการเงินมากกว่า ก็จะได้เกรดที่ดีกว่า แล้วคุณอยู่ในเกรดไหนบ้างไปดูกันเลย
เกรด F ความสมดุลในการใช้เงินยังติดลบ
ผู้ที่อยู่ในเกรด F แน่นอนว่าถ้าเป็นการเรียนคือคุณยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ระดับ F นั้นหมายถึง คนที่ยังเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ งบดุลชีวิตยังติดลบ ยังต้องหมุนเงินจากการกู้โน่น มาโปะหนี้ ยิ่งถ้าเป็นการกู้เพื่อโปะสินเชื่อส่วนบุคคล ยังสร้างหนี้เพิ่มสารพัด การที่เราจะแก้เกรด F นี้เราต้องลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ลดหนี้ให้เร็วที่สุดก่อนที่ดอกเบี้ยจะบานปลาย
เกรด D เงินได้พอดีกับใช้จ่าย
ผู้ที่อยู่ในเกรด D ในทางการเรียนเรียกว่าผ่านแบบเฉียดฉิ้ว แม้จะผ่านแต่ก็ยังมีความน่ากังวลา ในระดับ D หมายถึง คนที่หาเงินได้พอดีกับใช้จ่าย หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า เดือนชนเดือน เป็นการที่เราหาเงินมาได้เท่าไร เราก็ต้องจ่ายเงินออกไปแทบจะทั้งหมด ทำให้ขาดการเก็บออมเงิน ทั้งเงินออมและเงินใช้จ่ายฉุกเฉินไม่มี เงินใช้แบบพอดี ไม่เหลือเก็บเลย หากใครที่อยู่ในระดับนี้ต้องเร่งลดค่าใช้จ่าย และหาวิธีผลิตกระแสเงินสดเพิ่มเติมให้เร็วที่สุด
เกรด C เริ่มมีเงินเก็บออมบ้าง
ผู้ที่อยู่ในเกรด D ในทางการเรียนก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง คนที่มีเกรดทางการเงินในระดับ C หมายถึงคนที่หาเงินมาได้พอใช้จ่าย และเริ่มมีเงินเก็บออมบ้าง ซึ่งเข้าใจได้ว่าคนส่วนใหญ่ก็น่าจะมีระดับทางการเงิน หรือเกรดทางการเงินในระดับนี้ เพราะสังคมบ้านเราการออมยังถือว่าเป็นค่านิยมที่สำคัญอยู่ในใจครับ
เกรด B มีเหลือเก็บออมและเริ่มมีการลงทุน
สำหรับคนที่เกรดทางการเงินในระดับ B หมายถึง คนที่หาเงินมาได้พอใช้จ่าย มีเหลือเก็บออม และเริ่มมีการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ และทำให้งอกเงยได้ด้วย สินทรัพย์ดังกล่าว ได้แก่ การฝากเงินไว้กับธนาคาร ลงทุนในกองทุนรวม ซื้อหุ้นกู้ หากใครมีเกรดทางการเงินในระดับนี้ถือได้ว่าเริ่มมีความมั่นคงทางการเงินระดับหนึ่งแล้ว
เกรด A มีอิสรภาพทางการเงิน
สำหรับคนที่มีเกรดทางการเงินในระดับ A หมายถึง คนที่มีอิสรภาพทางการเงิน ไม่จำเป็นต้องทำงานแลกเงิน สามารถปล่อยให้เงินทำงานได้อย่างอิสระ เนื่องจากมีสินทรัพย์จากการลงทุนประเภทต่างๆ เช่น ลงทุนในหุ้น ลงทุนในกองทุนรวม ลงทุนในที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ มีเงินเหลือใช้ในปริมาณมากๆ และโอกาสที่จะกลับไปมีฐานะทางการเงินที่ต่ำกว่าถือว่าน้อยมากแล้วครับ ซึ่งผมเข้าใจว่าคนที่จะมีความมั่งคั่ง หรือเกรดทางการเงินในระดับ A นั้นเป็นคนส่วนน้อยในบ้านเรา ซึ่งก็เป็น “เป้าหมาย” ที่ใครหลายคนใฝ่ฝันอยากจะเป็นกัน