BAY : ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กำไรสุทธิ 1Q63 ดีกว่าคาด

1 Min Read

BAY : ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หุ้นในตลาด SET กลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดธุรกิจธนาคาร เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2520 ลักษณะธุรกิจ ปัจจุบันธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อันดับ 5 ของประเทศในด้านสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินฝาก และยังเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ซึ่งเป็นกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก ธนาคารและบริษัทในเครือมีความมุ่งมั่นที่จะตอบสนองทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ กลุ่มลูกค้าธุรกิจ (ธุรกิจขนาดใหญ่ของไทย ธุรกิจญี่ปุ่น บริษัทข้ามชาติ ตลอดจนลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย) และกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อย นอกจากนี้ ยังให้บริการทางการเงินที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ผ่านบริษัทย่อยและการร่วมค้าทั้งในด้านการบริหารความมั่งคั่ง บัตรเครดิต ประกันวินาศภัย การบริหารสินทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และเครื่องจักร แฟคเตอริ่ง ไมโครไฟแนนซ์และสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 ธนาคารมีทุนจดทะเบียน 75,741 ล้านบาท และทุนชำระแล้ว 73,558 ล้านบาท

BAY รายงานกำไรสุทธิ 1Q63 ที่ 7,033 ล้านบาท ลดลง 44.8%YoY แต่เพิ่มขึ้น 9.2%QoQ ดีกว่าที่เรา และ Consensus คาด หนุนจาก NIM ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น มากกว่าคาด โดย NIM ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3.9% (+15 bps YoY และ +34 bps QoQ) จากการปรับลดค่าธรรมเนียม FIDF ลง 23 bps รวมถึงการเปลี่ยนวิธีการคำนวณอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง นอกจากนี้สินเชื่อก็ปรับตัวเพิ่มมาอยู่ที่ 1.9 ล้านล้านบาท 9.4%YoY และ +2.9%QoQ) จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของสินเชื่อธุรกิจ (Corporate Loan) เป็นหลัก

NPL ที่เพิ่มขึ้นสะท้อนมาตรฐานบัญชีใหม่ที่เข้มงวดขึ้น ณ สิ้น 1Q63 อัตราส่วน NPL ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.2% เป็นผลจากการบังคับใช้ มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS9 ซึ่งมีความเข้มงวดในการจัดชั้นลูกหนี้มากขึ้น ส่งผลให้ในไตรมาสนี้มีการตั้งสำรองสูงขึ้น ในขณะเดียวกันธนาคารได้มีการกันส่วนสำรองManagement Overlay เพื่อรองรับสถานการณ์ COVID-19 โดยคิดเป็น Credit Cost อยู่ที่ 2.1% เทียบกับ 1Q62 และ 4Q62 ที่ 1.7% และ 1.8% ตามลำดับ ด้าน Coverage ratio ปรับตัวลดลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ 159.0%

เอเชียเวลท์ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 28.30 บาท เราเชื่อในระยะสั้น คาดธนาคารยังเผชิญกับปัจจัยกดดัน จากทั้งการปรับลดอัตรา ดอกเบี้ยลง 40 bps และการเร่งตัวขึ้นของ NPL อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่า BAY จะ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากธนาคารมีสัดส่วนสินเชื่อ SME เพียง 14.9% และมีสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพียง 14.5% ของ สินเชื่อรวมทั้งหมด ดังนั้นเราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายเดิม 28.30 บาท อิงค่า PBV ที่ 0.7 เท่า

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

Share this Article
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่