SCB : ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ตลาด SET กลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดธุรกิจธนาคาร ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์มาตั้งแต่ 12 ก.พ. 2519 ราคาพาร์ 10 บาท ทุนจดทะเบียน 34,172,738,030.00 บาท จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 3,395,590,358 หุ้น ลักษณะธุรกิจ ดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการทางการเงินครบวงจรสำหรับลูกค้าทุกประเภท เช่น รับฝากเงิน โอนเงิน ให้กู้ยืมประเภทต่างๆ บริการด้านปริวรรตเงินตรา Bancassurance บริการด้านการค้าต่างประเทศ Cash Management รวมถึงบริการด้านธุรกิจหลักทรัพย์ บริการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคล บริการด้านบัตรเครดิตและการรับฝากทรัพย์สิน
กำไรสุทธิ 1Q63 คาดเป็นจุดสูงสุดของปีแล้ว SCB รายงานกำไรสุทธิ 1Q63 ที่ 9,251 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0% YoY และ 68.0%QoQ สูงกว่าที่เราและ Consensus คาดอย่างมาก หนุนจาก NIM ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังบังคับใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS9 (รับรู้ตามวิธี EIR และสามารถรับรู้รายได้จาก NPL ได้) และธปท. มีนโยบายปรับลด FIDF ลง 23 bps นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เช่น ค่าใช้จ่าย IT ทยอยลดลง หลังผ่านจุดสูงสุดใน 4Q62 โดย Cost-to-Income ratio ลดลงมาอยู่ที่ 43.6% เทียบกับ 1Q62 และ 4Q62 ที่ 51.6% และ 52.8% ตามลำดับ
คาดผลประกอบการ 2Q63 เริ่มสะท้อนสถานการณ์จริงในตลาด เราประเมินผลประกอบการ 2Q63 ลดลงทั้ง YoY และ QoQ ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ผลกระทบของ COVID-19 ที่คาดว่าจะสะท้อนออกมาให้เห็นแบบเต็มไตรมาส ทั้งจาก (1) การหดตัวของสินเชื่อ โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อรายย่อย ทั้งสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อรถยนต์ (2) NIM ปรับตัวลดลง จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย MOR MLR และ MRR ลง 40 bps ตามนโยบายของ ธปท. และ (3) คาด Credit Cost ปรับตัวสูงขึ้น QoQ โดยคาดการณ์ว่าธนาคารจะมีการตั้งสำรอง Management Overlay เพิ่ม ตามสถานการณ์ COVID-19 ที่รุนแรงขึ้น และส่งผลโดยรวมต่อเศรษฐกิจไทยปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 และปี 2564 ลงเราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-2564 ลง ราว 19.6% และ 18.0% จากสถานการณ์ COVID-19 ที่เลวร้ายกว่าคาด ส่งผลต่อ Credit Cost ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น เพื่อรองรับต่อความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต ทั้งนี้เราปรับสมมมติฐานอัตราส่วน Credit Cost ใหม่อยู่ที่ 1.8% (เดิม 1.3%) ในปี 2563 และ 1.5% (เดิม1.2%) ในปี 2564
เอเชียเวลท์ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเป้าหมาย 99 บาทภายหลังการปรับลดประมาณการปี 2563 – 2564 ลง เราได้ราคาเป้าหมาย SCB ใหม่ 99 บาท โดยอิงค่า PBV ที่ระดับเดิม 0.8 เท่า (ค่าเฉลี่ย PBV 5 ปีย้อนหลัง –2S.D.) แม้เราจะยังคงคำแนะนำเชิงปัจจัยพื้นฐานเป็น “ซื้อ” จาก Upside ที่มากถึง 43% แต่เราเชื่อว่าระยะสั้น ราคาหุ้นมีโอกาสตอบรับเชิงลบต่อการคาดหมายผลประกอบการ2Q63 ที่คาดว่าจะลดลง QoQ จากการรับรู้ผลกระทบจาก COVID-19 เต็มไตรมาสและเชื่อว่าผลประกอบการ 2Q63 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี 2563 กลยุทธ์การลงทุน เราจึงแนะนำให้เข้าลงทุน เมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลง