สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

1 Min Read

อยากที่เราทราบกันดีว่าประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) โดยในปี 2040 กว่า 1 ใน 4 ของประชากรในประเทศไทยจะเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป สวนทางกับอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากอัตราการเกิด 6 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคนในปี 1960 มาอยู่ที่ราวๆ 1.5 ในปัจจุบัน และยังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น อัตราการเกิดไม่ถึง 2 แปลได้ตรงตัวนะครับ ว่าประชากรของไทยจะหดตัวลงในอนาคตอันใกล้นี้

สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับผู้สูงอายุที่จะเกิดขึ้นในตอนนี้และอนาคต คือ รายได้ที่จะใช้ในวันที่ไม่สามารถทำงานหาเงินเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมถึงสุขภาพที่ถดถอยและต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากในการรักษาตัวเองจากโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นโรคเรื้อรังและอยู่ด้วยกันจนวันสุดท้ายของชีวิต

ถ้าอยู่ในระบบราชการที่มีบำนาญให้เบิกค่ารักษาพยาบาลก็ไม่น่าเป็นห่วง แต่กลุ่มที่น่าเป็นห่วง คือ ผู้สูงอายุที่ไม่ได้เป็นข้าราชการบำนาญ ไม่มีเงินสำรองเพียงพอต่อการใช้ชีวิต และไม่มีลูกหลานคอยดูแล ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี กระทรวงการคลังจึงเสนอให้มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage Loan) วิธีการ คือ ผู้กู้สามารถใช้บ้านและที่ดินที่อาศัยอยู่ในปัจจุบันเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้กับสถาบันการเงินและได้รับเงินเป็นงวดๆ หรือการแปลงมูลค่าบ้านและที่ดินเป็นเงินสด โดยที่ไม่ต้องย้ายออกมาจนกว่าผู้กู้จะเสียชีวิต โดยสถาบันการเงินจะเรียกทายาทโดยธรรมมาทำการไถ่ถอนคืนหรือจะให้ทางสถาบันการเงินขายแทนการชำระหนี้เงินกู้ที่ได้รับ

ธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นสถาบันการเงินที่เปิดให้สินเชื่อบ้านผู้สูงอายุเพื่อการเกษียณการมีสินเชื่อบ้านผู้สูงอายุเพื่อการเกษียณ เป็นตัวเลือกที่ทำให้ผู้เกษียณอายุสามารถใช้ชีวิตในบั้นปลายโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่างๆ และมีเงินเพียงพอเพื่อดำรงชีวิต

สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage) ธนาคารอาคารสงเคราะห์

โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage : RM)  เป็นสินเชื่อสำหรับผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปี แต่ไม่เกิน 80 ปี ซึ่งธนาคารให้กู้ยืมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ โดยลูกค้าต้องนำที่อยู่อาศัยที่ปลอดภาระจำนองมาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ และธนาคารจะจ่ายเงินให้ผู้กู้เป็นรายเดือน วัตถุประสงค์การยื่นกู้ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ
กำหนดพื้นที่นำร่องหลักประกันต้องตั้งอยู่ในเขต กทม.และปริมณฑล

วงเงินให้กู้สูงสุด

วงเงินให้กู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 10 ล้านบาท

ระยะเวลาการกู้

อย่างน้อย 6 เดือน และสูงสุดไม่เกิน 25 ปี โดยอายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาขอกู้ต้องไม่เกิน 85 ปี

อัตราดอกเบี้ย

คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เท่ากับ 6.25% ต่อปี ตลอดอายุสัญญากู้เงิน ด้านค่าธรรมเนียม ยกเว้นค่าธรรมเนียม ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินกู้) ค่าประเมินราคาหลักประกัน ธนาคารเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียม

ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (1,000 บาทต่อราย)
ค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง (1% ของวงเงินจำนอง)
ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยครึ่งหนึ่ง (50%)

คุณสมบัติ

บุคคลธรรมดา มีสัญชาติไทยอายุตั้งแต่ 60 ปี แต่ไม่เกิน 80 ปี และเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยโดยปลอดภาระจำนอง
ต้องไม่เป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
กู้ร่วมได้เฉพาะกับคู่สมรสตามกฎหมายหรือพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันที่มีกรรมสิทธิ์ในหลักประกันเดียวกัน

เอกสาร

บัตรประจำตัวประชาชน / ข้าราชการ / รัฐวิสาหกิจ
ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
สำเนาทะเบียนสมรส / ใบหย่า / ใบมรณะบัตร (ถ้ามี)
สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – สกุล (ถ้ามี)
อื่นๆ (ถ้ามี)
เอกสารหลักประกัน
สำเนาโฉนดที่ดิน/ น.ส.3ก. / หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อช.2) ทุกหน้า
หลักฐานการเป็นเจ้าของบ้าน เช่น สำเนาใบคำขอ เลขหมายบ้าน สำเนาสัญญาซื้อขายฉบับสำนักงานที่ดิน (ทด.13 หรือ อ.ช.23)
ทะเบียนบ้านหลักประกันที่มีชื่อผู้กู้หลักเป็น “เจ้าบ้าน” หรือ“ผู้อาศัย”
อื่นๆ (ถ้ามี)
หมายเหตุ ** ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการขอเอกสารต่างๆของผู้กู้เพิ่มเติม เพื่อใช้ประกอบพิจารณาการให้สินเชื่อของธนาคาร **

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

Share this Article
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่