ท่าอากาศยานไทย แนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ มิ.ย. ก่อนกลับสู่ระดับปกติในปี 2565

1 Min Read

AOT : บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ลักษณะธุรกิจ ทอท.ประกอบธุรกิจท่าอากาศยานของประเทศไทย โดยธุรกิจหลักประกอบด้วย การจัดการ การดำเนินงาน และการพัฒนาท่าอากาศยาน โดยมีท่าอากาศยานในความรับผิดชอบ 6 แห่ง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ซึ่งท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งนี้ ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ

AOT ยังเหมาะสมกับการลงทุนในระยะยาว จากการคาดหมายที่จะเห็นจำนวนผู้โดยสารกลับมาเติบโตในปี 2564 และกลับสู่สถานการณ์ปกติในปี 2565 เราปรับราคาเป้าหมายเหลือ 70 บาท (เดิม 79 บาท) เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการณ์ผลประกอบการของ AOT อย่างไรก็ตามเรายังหวังว่าประมาณการณ์ผลประกอบของเราจะยังมี Upside หากสถานการณ์คลี่คลายเร็วกว่าคาดจำนวนผู้โดยสารที่เติบโตเร็วกว่าคาดหลังสถานการณ์ Covid-19 คลี่คลาย รวมทั้งการยกเลิกเงื่อนไขช่วยเหลือผู้ประกอบการในสนามบินของ AOT ตามมาตรการที่ประกาศก่อนหน้านี้ ซึ่ง AOT สามารถเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือยกเลิกการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ อย่างไรก็ตามความเสี่ยงยังคงอยู่ที่สถานการณ์ Covid-19 ที่กระทบยาวนานกว่าที่คาด

มีการคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิ 2Q63 (ม.ค. – มี.ค.) อยู่ที่ 3.38 พันล้านบาท ลดลง 54%QoQ และลดลง 55%YoY เป็นไปตามสถิติการบินในช่วง ม.ค. ถึง มี.ค. 63 ของ AOT ที่รายงานจำนวนเที่ยวบิน และจำนวนผู้โดยสารลดลง 18.5%YoY และลดลง 30.3%YoY รวมไปถึงผลกระทบจากนโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการภายในสนามบินของ AOT ทำให้คาดว่าบริษัทจะมีรายได้รวมลดลง 29%QoQ เราประเมินว่าผลจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะมาตรการปิดท่าอากาศยานทั่วประเทศในช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา การประกาศหยุดการบินของสายการบินทั้งในและต่างประเทศ รวมไปถึงประกาศล่าสุดของ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่องห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศ ขยายเวลาถึง 30 เม.ย. (เดิม 15 เม.ย.) จะส่งผลกระทบต่อเนื่องในผลประกอบการในช่วง 3Q63 (เม.ย. – มิ.ย.) โดยข้อมูลสถิติการบินที่เราได้รับจากบริษัท ระหว่างวันที่ 1 – 11 เม.ย. 63 มีจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารลดลง 92.1%YoY และ 98.1%YoY ตามลำดับ อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าผลประกอบการ3Q63 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี 2563 โดยเราคาดหมายจะเห็นการฟื้นตัวของจำนวนผู้โดยสารในช่วง 2H63 ภายใต้สมมติฐานสถานการณ์ Covid-19 ที่เริ่มคลี่คลาย

เราคาดหมายจะเห็นจำนวนผู้โดยสารเริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลัง มิ.ย. แม้จะเป็นเรื่องยากต่อการประเมินความเสี่ยงจาก Covid-19 ต่อธุรกิจการบิน แต่เรามองว่า สถานการณ์ผ่านจุดวิกฤตที่สุดไปแล้ว ขณะที่ปัจจุบันเราเริ่มเห็นผู้ติดเชื้อในประเทศกลุ่มเสี่ยงอย่าง สหรัฐฯ และบางประเทศในยุโรป มีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง ทำให้ยังคาดหมายว่า Covid-19 จะเริ่มคลี่คลายในช่วงปลาย พ.ค. – มิ.ย. หากเป็นไปตามคาด เรายังเชื่อว่าจำนวนผู้โดยสารจะกลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามความเชื่อมั่นต่อการเดินทางท่องเที่ยวที่ทยอยเพิ่มขึ้น ซึ่งหากเป็นไปตามคาดเราคาดหมายจะเห็นจำนวนผู้โดยสารกลับสู่ระดับปกติในช่วงปลายปี 2564 และเริ่มปีที่สดใสใหม่อีกครั้ง จากการจำนวนผู้โดยสารที่เติบโตปกติในปี 2565

ปรับลดสมมติฐานจำนวนผู้โดยสารในปี 2563 – 2565 อีกครั้ง เพื่อสะท้อนความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มขึ้น ทำให้เราปรับสมมติฐานจำนวนผู้โดยสารในปี 2563 ลดลง 46%YoY (เดิมคาดลดลง 20%YoY) และคาดว่าในปี 2564 จะกลับมาเติบโต 30%YoY จากฐานที่ต่ำในปี 2563

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

Share this Article
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่