คนที่ใช้บัตรเครดิตคงจะต้องได้การแบ่งเป็น 2 ค่ายหลัก คือ VISA และ Master Card หลายคนอาจสงสัยว่า VISA vs MasterCard แบบไหนจะดีสำหรับคุณ ซึ่งทั้งบัตรประเภทวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด อาจจะมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่ก็มักจะให้ความสนใจมากขึ้นว่า ธนาคารผู้ออกบัตรจะนำเสนอบัตรเครดิตประเภทไหนให้ หรือบัตรแต่ละประเภทมีสิทธิประโยชน์อย่างไร
วีซ่าและมาสเตอร์การ์ดไม่ได้เป็นผู้ออกบัตรเครดิตโดยตรง แต่เป็นตัวกลางในการชำระเงิน และดำเนินการระหว่าง ร้านค้า กับ สถาบันการเงิน ซึ่งสถาบันการเงินจะมีสองส่วน คือ สถาบันการเงินที่ออกบัตร และสถาบันการเงินเจ้าของเครื่องรูดชำระที่ติดตั้งในร้านค้า โดยทั้งวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดนั้น มีเครือข่ายอยู่ทั่วทุกมุมโลก ซึ่งได้รับการยอมรับจากสากลว่าเป็นระบบที่ worldwide มากที่สุด นอกจากวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดแล้ว ยังมีผู้ให้บริการรายอื่น ๆ อีก เช่น American Express, JCB, UNION PAY เป็นต้น
VISA Card “วีซ่าการ์ด”
VISA Card “วีซ่าการ์ด” เป็นสถาบันผู้ให้บริการทางการเงินยักษ์ใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์ผู้ให้บริการบัตรเครดิตอันดับหนึ่งของโลกที่มีการให้บริการชำระเงินข้ามประเทศ ทำให้วีซ่าการ์ดสามารถพกพานำไปใช้ได้มากถึง 220 ประเทศทั่วโลก และยังมีเครือข่ายในการชำระเงินในร้านค้ามากกว่า 29 ล้านแห่ง รวมไปถึงการเบิกถอนเงินสดจากตู้ ATM ได้อีกกว่า 1.9 ล้านเครื่อง ทำให้วีซ่าการ์ดได้รับความนิยมอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งวีซ่าการ์ดสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ บัตรเครดิตวีซ่าและบัตรเดบิตวีซ่า เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย และยังมีการแบ่งระดับของบัตรเครดิตวีซ่าการ์ดออกอีกหลายระดับ เพื่อให้มีความเหมาะสมทั้งในเรื่องของวงเงิน และสิทธิประโยชน์พิเศษที่ผู้ถือครองจะได้รับ ดังต่อไปนี้
สิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจของบัตรวีซ่าการ์ด (VISA Card)
บัตรเครดิตวีซ่าคลาสสิก (VISA Classic)
บัตรเครดิตวีซ่าใบนี้ ตอบโจทย์ของคนที่อาจจำเป็นที่จะต้องขอความช่วยเหลือแบบฉุกเฉินทางการเงินตลอด 24 ชั่วโมงจากทั่วโลก ตลอดทั้ง 7 วัน นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาใช้เบิกถอนเงินสดในกรณีที่ฉุกเฉินได้อีกด้วย
บัตรเครดิตวีซ่าโกลด์ (VISA Gold)
บัตรเครดิตวีซ่าใบนี้ ตอบโจทย์ของคนที่อาจจำเป็นที่จะต้องขอความช่วยเหลือแบบฉุกเฉินทางการเงินตลอด 24 ชั่วโมงจากทั่วโลก นอกจากนี้ยังได้รับการต้อนรับในฐานะของแขก VIP และข้อเสนอสุดพิเศษอีกมากมายจากร้านอาหาร สถานบันเทิงและแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำทั่วโลกที่เข้าร่วมรายการอีกด้วย
บัตรเครดิตวีซ่าแพลทินัม (VISA Platinum)
บัตรเครดิตวีซ่า ที่ให้สิทธิพิเศษในการช่วยประกันอุบัติเหตุในขณะเดินทาง โดยช่วยในการคุ้มครองทั้งในส่วนของผู้ถือบัตร รวมไปถึงคู่สมรสและบุตรในวงเงินประกันที่สูงถึง 5000,000 ดอลลาสหรัฐ รวมไปถึงการติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้ช่วยส่วนตัวได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทางโทรศัพท์หรือเว็บไซต์ได้ตลอด 7 วันทำการ สำหรับคนที่ชอบเดินทาง ผู้ถือครองวีซ่าการ์ดยังได้รับการต้อนรับแบบ VIP และรับโบนัสการเดินทาง รวมไปถึงการสะสมคะแนนเพื่อนำไปใช้ทำการแลกของรางวัล รวมไปถึงสิทธิประโยชน์พิเศษที่น่าสนใจอีกมากมาย
บัตรเครดิตวีซ่าซิกเนเจอร์ (VISA Signature)
บัตรเครดิตวีซ่าใบนี้ มีสิทธิพิเศษที่เหนือระดับมากขึ้น ด้วยการสะสมคะแนนเพื่อนำไปใช้แลกของรางวัลพิเศษ ผู้ดูแลส่วนตัวที่คอยให้คำปรึกษาในสิ่งที่ต้องการตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง โดยไม่มีวันหยึด ประกันภัยอุบัติเหตุคุ้มครองตลอดการเดินทาง รวมไปถึงสิทธิพิเศษจากโรงแรมและสนามบินในฐานะลูกค้า VIP และสิทธิพิเศษสุดเมื่อไปใช้บริการที่สนามกอล์ฟชั้นนำทั่วโลกกว่า 300 แห่ง เป็นต้น
บัตรเครดิตวีซ่าอินฟินิท (VISA Infinite)
บัตรเครดิตวีซ่าขั้นสูงสุดที่ให้สิทธิพิเศษแบบจุใจสำหรับลูกค้าคนพิเศษ ด้วยสิทธิในการใช้บริการผู้ช่วยส่วนตัวตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง เอาใจคนรักการเดินทางด้วยประกันอุบัติเหตุขั้นสูงสุดถึง 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมหย่อนใจในขณะรอเดินทางในห้องรับรอง VIP ในสนามบินทั่วโลก และข้อเสนอสุดพิเศษจากโรงแรมที่พักชั้นนำกว่า 55,000 แห่ง ทั่วโลก
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่
