สินเชื่อในรูปแบบของบัตรนั้นเป็นที่รู้กันดี ทั้งบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ซึ่งบัตรกดเงินสดก็จะมีข้อแตกต่างจากบัตรเครดิตก็คือใช้เฉพาะกดเงินสดออกมาใช้จ่ายเท่านั้น หรือเป็นการผ่อนชำระภายใต้วงเงินสินเชื่อกับร้านค้าที่ร่วมรายการ วันนี้เราจึงจะมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับบัตรกดเงินสดเพื่อให้ใช้ประโยชน์มันได้อย่างถูกต้อง
บัตรกดเงินสด
บัตรกดเงินสดเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทหนึ่ง ที่มาในรูปแบบของบัตรเหมือนกับบัตรเครดิต โดยวิธีการใช้นั้น จะต้องกดเงินสดออกจากตู้เอทีเอ็มเท่านั้น แต่จะไม่สามารถนำไปรูดซื้อสินค้าหรือซื้อสินค้าออนไลน์ได้เหมือนกับบัตรเครดิต นอกจากนี้ อัตราและการคำนวณดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดนั้น ก็จะแตกต่างจากบัตรเครดิตด้วยซึ่งจะคิดแบบลดต้นลดดอก ตามจำนวนวันที่ใช้จริงหรือเรียกง่าย ๆ ก็คือคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันนั่นเอง บัตรกดเงินสดสามารถใช้เป็นวงเงินสดหมุนเวียนได้ตลอด เมื่อชำระยอดเงินคืนเข้าไปในบัญชีบัตรกดเงินสดก็จะได้วงเงินคืนกลับมา
ข้อดีของบัตรกดเงินสด
ข้อดีของบัตรกดเงินสดคือ ช่วยให้คุณกดเงินสดออกมาจากตู้เอทีเอ็มได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม (+VAT) ในการกดเงินสด โดยสามารถกดได้มากน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับวงเงินที่คุณได้รับอนุมัติ ต่างจากการกดเงินสดด้วยการใช้บัตรเครดิต ที่คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการกดเงินสด 3% (+VAT) บัตรกดเงินสดนี้ถือเป็นวงเงินสดฉุกเฉิน ในกรณีที่คุณไม่มีเงินสดและไม่สามารถใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ นอกจากนี้ หากคุณไม่กดเงินสดออกมาจากบัตรกดเงินสด หนี้ของคุณก็จะไม่เกิดและจะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายปีดังเช่นบัตรเครดิต จึงเหมาะสำหรับเอาไว้ใช้เป็นวงเงินในกรณีฉุกเฉิน
ข้อเสียของบัตรกดเงินสด
บัตรกดเงินสดถือเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุด ในหมู่มวลสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งหมด โดยมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ 28% ต่อปี และยังคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันด้วย ดังนั้น แม้ว่าคุณจะกดเงินสดออกมาเพียงแค่วันเดียวและชำระเงินเต็มจำนวน คุณก็จะยังคงต้องเสียดอกเบี้ยอยู่ดี ฉะนั้น หากคุณกดเงินออกมาและชำระเพียงขั้นต่ำ แม้ว่าจะคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ไม่เหมือนกับบัตรเครดิตที่คิดดอกเบี้ยจากเงินต้น แต่เนื่องด้วยการคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน รับรองว่าดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดนั้นน่ากลัวว่าดอกเบี้ยของบัตรเครดิตแน่นอน
หนี้และดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสด
บัตรกดเงินสดจะแตกต่างจากบัตรเครดิตคือ การใช้บัตรกดเงินสดแบบไม่ให้เป็นหนี้เลยนั้นอาจจะเรียกว่าเป็นไปไม่ได้ ต่างจากบัตรเครดิตที่ยังมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย 45-55 วัน (แล้วแต่สถาบันการเงินจะเป็นผู้กำหนด) ที่หากคุณชำระเต็มจำนวนภายในระเวลาปลอดดอกเบี้ย คุณจะไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว แต่บัตรกดเงินสดหากกดออกมาแล้วถือว่ามีดอกเบี้ยเกิดขึ้นแล้วทันที ยิ่งจำนวนวันในการชำระคืนนานเท่าใด ก็ยิ่งมีดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้นนานเท่านั้น ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการใช้บัตรกดเงินสดก็คือ รีบชำระคืนโดยเร็วที่สุดโดยไม่ต้องรอบิลเรียกเก็บเงินปลายเดือน ยิ่งชำระคืนเร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งเสียดอกเบี้ยน้อยเท่านั้นนั่นเอง