VIBHA : บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) ธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจการแพทย์ เริ่มต้นซื้อขายในตลาดมาตั้งแต่ 26 มี.ค. 2535 ราคาพาร์ 0.10 บาท ทุนจดทะเบียน 1,493,784,993.60 บาท จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 13,264,617,278 หุ้น ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลวิภาวดี เพื่อสุขภาพของคนไทยทุกคน คือ จุดเริ่มต้นของเราด้วยความตั้งใจจริงที่ต้องการให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีและมีทางเลือกในการดูแลรักษาพยาบาลตนเองมากขึ้นโรงพยาบาลวิภาวดีจึงถือกำเนิดขึ้น เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2529 โดยเน้นการให้บริการบริการด้านการดูแลรักษาสุขภาพตลอดจนตรวจวินิจฉัยบำบัดโรค โดยทีมแพทย์และบุคคลากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทุกสาขา พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย มีรถพยาบาลพร้อมรับ – ส่งทั่วประเทศและเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
บริษัทเปิดเผยข้อมูลของแนวโน้ม 2 เดือนแรกในเดือน ม.ค.- ก.พ. 2563 จำนวนผู้ป่วยเงินสดที่ใช้บริการสำหรับ รพ.วิภา อ่อนตัวเล็กน้อยจากฐานที่สูง แต่ภาพรวมคาดรายได้ได้จะเติบโตจากส่วนของประกันสังคมที่ได้ผลบวกจากการปรับค่าหัวประกันสังคมในต้อนต้นปี ส่วนผลกระทบจาก COVID-19 ยังไม่เห็นผลกระทบ ด้วยสัดส่วนรายได้จากต่างชาติมีเพียง 3% ของรายได้รวมเท่านั้น ซึ่งในภาพรวมนั้นมีแนวโน้มเติบโตหลักๆจากประกันสังคม ที่คาดไม่ปีนี้จะไม่มีการรเรียกคืนจากประกันสังคมสูงเหมือนปีก่อน ที่โดนเรียกคืนราว 250 ล้านบาท ซึ่งยังเหลืองวดปี 2561-2562 ที่รอตรวจสอบ ประเด็นปัญหางบประมาณของประกันสังคมไม่เพียงพอจ่าย คาดว่าจะไม่กระทบเหมือนปีก่อนเช่นกัน เนื่องจาก ทางประกันสังคมได้ปรับรวมในส่วนเหมาจ่ายไปแล้ว
แผนการลงทุนบริษัทอยู่ระหว่างวางแผนการก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่ “วิภาราม อ่อนนุช” มูลค่าการก่อสร้างตัวโรงพยาบาลอยู่ที่1,000-1,200 ล้านบาท โดยบริษัทมีกระแสเงินสดในการลงทุนรองรับเป็นที่เรียบร้อย โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินขั้นตอนต่างๆ และเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงปลายปี 2563
แนวโน้มปี 2563 เราคาดกำไรสุทธิปรับเพิ่ม 8%YoY เป็น 872 ล้านบาท หากไม่นับรวมรายการพิเศษปี ก่อนจากการขายหลักทรัพย์เผื่อขายกำไรปกติเติบโตโดดเด่น +36%YoY โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากฐานนที่ต่ำในปี2562 รายได้จากโครงการประกันสังคมถูกกระทบจากการเรียกคืนเงิน ขณะที่ปี 2563 คาดว่าจะไม่มีผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว ขณะที่นี้ ผลกระทบจะน้อยลงและได้ผลบวกจากการรปรับขึ้น ค่าหัวประกันสังคมราว 5.6% 3) ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไร มีแนวโน้มดีขึ้น จากผลของรายได้ที่เพิ่มขึ้น และบริษัทมีการปรับกลยุทธ์โดยมีแผนตัดขายธุรกิจที่ไม่ทำกำไร