NER เติบโตสูงจากโรงงานใหม่ กำลังการผลิตเพิ่ม ออเดอร์เพิ่ม

1 Min Read

NER : บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) ธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจธุรกิจการเกษตร วันที่เริ่มต้นซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อ 7 พ.ย. 2561 ราคาพาร์ 0.50 บาท ทุนจดทะเบียน 770,000,000 บาท จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 1,540,000,000 หุ้น ลักษณะธุรกิจ ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง

ผลิตภัณฑ์ของบริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วย
ยางแผ่นรมควัน (Ribbed Smoked Sheet: RSS) / ยางแผ่นรมควันอัดก้อน คือผลิตภัณฑ์ยางพาราธรรมชาติขั้นต้น ที่ผ่านกระบวนการผลิตโดยการอบให้สุกเป็นแผ่นๆด้วยความร้อนและอาศัยควันที่ได้จากการเผาไหม้รมเคลือบผิวหน้ายางไปพร้อมกันหลังจากนั้นจะนำมาคัดเกรดแยกชั้นคุณภาพยางตามข้อกำหนดที่ใช้ร่วมกันอย่างแพร่หลาย
ยางแท่ง (Standard Thai Rubber: STR) / ยางแท่งอัดก้อน คือผลิตภัณฑ์ยางพาราธรรมชาติขั้นต้น ที่ได้ จากกระบวนการ สับ บด ย่อย ยางก้อนถ้วย ยางเครฟ (ยางเศษรีดแผ่น) และ เศษยางธรรมชาติอื่นๆ รวมเป็นเนื้อเดียวกันแล้วนำไปผ่านความร้อนโดยการอบในแบบลักษณะทรงสี่เหลี่ยมที่มีขนาดตามมาตรฐานที่กองการยางกำหนดไว้
ยางผสม (Mixtures Rubber) คือผลิตภัณฑ์พาราขั้นต้นกึ่งธรรมชาติ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการเติมยางสังเคราะห์ และ/หรือ สารเคมีเข้าไปในยางพาราธรรมชาติ ตามคุณสมบัติหรือลักษณะพิเศษเฉพาะตัวที่ต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยมีการชื่อเรียกรวมกว้างๆ ว่า “ยางผสม”

ด้านผลประกอบการในปี 2563 เนื่องจากจะมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นมาจากโรงงานใหม่แห่งที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดใช้ปลายเดือนมีนาคม และสามารถที่จะรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 2 ได้ทันที โรงงานแห่งใหม่จะเข้ามาช่วยหนุนกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 170,000 ตัน/ปี รองรับคำสั่งซื้อที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ ทำให้กำลังการผลิตรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 460,000 ตัน/ปี สำหรับโรงงานใหม่ปีนี้บริษัทตั้งเป้าการผลิตที่ร้อยละ 70 ของกำลังการผลิตรวม โดยมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าสัญญา Long Term แล้วกว่าร้อยละ 40 ส่วนด้านสถานการณ์ COVID-19 ทั้งนี้บริษัทมียอดขายที่พึ่งพิงการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 45 โดนเป็นลูกค้าจีนร้อยละ 75 โดยสินค้าจะส่งไปที่โรงงานในชิงเต่า มณฑลซานตง ซึ่งห่างจากอู่ฮั่นราว 700 กิโลเมตร ดังนั้นปัญหาช่วงที่เกิดโรคระบาดนั้นจึงเป็นเพียงการชะลอการส่งสินค้า เนื่องจากมีการหยุดทำงานของโรงงานและธนาคารราว 2 สัปดาห์ ซึ่งปัจจุบัน Capacity โรงงานต่างๆ ได้เริ่มกลับมาดำเนินแล้วร้อยละ 80 ดังนั้นสินค้าในช่วงที่จะต้องส่งในเดือนกุมภาพันธ์ จะเลื่อนส่งไปในเดือนมีนาคม ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อในไตรมาสที่ 1

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมายปี 63 เท่ากับ 2.90 บาท ด้วยวิธี Gordon Growth Model คิดเป็น PER 7.3 เท่า ของผลการดำเนินงานปี 2563 ทั้งนี้ NER จะขึ้นเครื่องหมาย XD และ XR วันที่ 29 เม.ย 63 ณ ราคาปัจจุบัน คิดเป็น Div.Yield 6.2% และราคาเป้าหมายได้รวมผลของ Price Dilution ไว้ในประมาณการแล้ว เนื่องจากแม้ว่าจะมีการกำหนดระยะเวลาในการใช้สิทธิครั้งแรกในช่วงกลางเดือนธันวาคม ปี 2563 แต่ตลาดจะมีการตอบสนองราคาล่วงหน้า

ด้านความเสี่ยง คือ ความผันผวนของราคายางพาราในตลาดโลก การไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายระยะยาวกับลูกค้าบางรายและความเสี่ยงจากการที่ลูกค้าไม่ปฏิบัติตามสัญญา การเปลี่ยนแปลงในนโยบายของภาครัฐ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนตราต่างประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

Share this Article
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่