สารบัญ

อัตราส่วนทางการเงิน (Financial Ratio)Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

การลงทุนให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว งบการเงินเป็นข้อมูลสำคัญที่สะท้อนถึงฐานะทางการเงินและความมั่นคงของธุรกิจ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของนักลงทุน สำหรับนักลงทุนที่ยังคงมองว่างบการเงิน เต็มไปด้วยตัวเลข ซับซ้อน ไม่รู้จะเริ่มต้นบรรทัดไหน อย่าพึ่งท้อ เพราะใช้เวลาไม่นานก็สามารถเข้าใจและมีเทคนิคในการอ่านงบการเงินอย่างง่ายและตัดสินใจได้ว่าบริษัทนั้นมีสุขภาพทางการเงินเป็นอย่างไร และน่าสนใจในการลงทุนหรือไม่ ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ อัตราส่วนทางการเงิน

อัตราส่วนทางการเงิน (Financial Ratio)

การที่เราจะตัดสินใจเลือกลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง ต้องวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน เพราะอัตราส่วนทางการเงินเป็นการประเมินฐานะทางการเงินและความสามารถในการทำกำไร โดยส่วนใหญ่จะต้องทำการเปรียบเทียบอัตราส่วนทางการเงินกับคู่แข่งที่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน เพื่อจะได้รู้ว่าแต่ละบริษัทมีข้อดี ข้อเสียต่างกันอย่างไร บทความนี้จะแนะนำ อัตราส่วนสภาพคล่องทางการเงิน (Current Ratio) อัตราส่วนสภาพคล่องทางการเงินอย่างเร็ว (Quick Ratio) อัตราหมุนเวียนลูกหนี้การค้า (Account Receivable Turnover) และระยะเวลาเก็บหนี้โดยเฉลี่ย (Day Receive)

1.อัตราส่วนสภาพคล่องทางการเงิน (Current Ratio) แสดงว่ากิจการมีสินทรัพย์หมุนเวียนที่สามารถนำมาชำระหนี้สินหมุนเวียนได้กี่เท่า มากกว่า 1 แสดงว่ากิจการมีสภาพคล่องที่ดีแต่หากได้ค่าน้อยกว่า 1 แสดงว่ากิจการมีสภาพคล่องต่ำ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่จะสูงขึ้นนั่นเอง

2.อัตราส่วนสภาพคล่องทางการเงินอย่างเร็ว (Quick Ratio) จะเหมือนกับ Current Ratio แต่ Quick Ratio จะคิดเฉพาะสินทรัพย์หมุนเวียนที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ไวดังนั้นจึงต้องหักสินค้าคงเหลือออก

3.อัตราหมุนเวียนลูกหนี้การค้า (Account Receivable Turnover) จะแสดงให้เห็นว่ากิจการมีการบริหารลูกหนี้การค้าได้ดีเพียงใดโดยค่าที่คำนวณออกมาได้จะมีหน่วยเป็นรอบหากได้จำนวนรอบที่มากแสดงว่ามีการหมุนเวียนลูกหนี้การค้าได้หลายรอบใน 1 ปี

4.ระยะเวลาเก็บหนี้โดยเฉลี่ย (Day Receive) จะแสดงให้เห็นว่ากิจการมีระยะเวลาเก็บหนี้โดยเฉลี่ยนานหรือสั้น โดยหากคำนวณได้ค่าที่น้อยเช่น 15 วัน ก็แสดงว่ากิจการใช้เวลาเก็บหนี้โดยเฉลี่ยเพียง 15 วัน จำนวนวันยิ่งสั้นยิ่งดี