หลังจากที่เราได้แนะนำ อัตราส่วนทางการเงินยอดฮิต P/E และ P/BV , Dividend Yield และ Turnover Ratio กันไปแล้ววันนี้เราจะมาแนะนำอัตราส่วนทางการเงินเพิ่มเติมที่นักลงทุนทั้งหลายควรอย่างยิ่งที่ต้องทำความเข้าใจ ความหมายที่แท้จริง เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ งบการเงินทำให้เห็นภาพรวมของบริษัท และความสามารถในการทำกำไรในเชิงเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้น นั่นก็คือ Net Profit Margin, ROA และ ROE
อัตราส่วนกำไรสุทธิ ( Net Profit Margin )
อัตราส่วนกำไรสุทธิ เป็นอัตราส่วนที่ใช้วัดความสามารถในการทำกำไร ของบริษัทหลังจากนำรายได้และค่าใช้จ่ายทุกประเภทมาพิจารณาแล้ว สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทในการควบคุมต้นทุน และค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อให้เกิดกำไรสุทธิ ดังนั้น ค่า Net Profit Margin ยิ่งสูงก็ยิ่งเป็นผลดี
อัตรากำไรสุทธิสามารถคำนวนได้จาก
อัตรากำไรสุทธิ = กำไรสุทธิ/ยอดขาย * 100 (%)
เปอร์เซ็นต์ยิ่งสูงยิ่งดี เพราะแสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถจะทำกำไรได้ดีจากการขาย แต่ถ้าผลออกมาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม หมายความว่า บริษัทสามารถที่จะเพิ่มเปอร์เซ็นอัตราส่วนกำไรสุทธิได้โดยการลดค่าใช้จ่ายหรือไม่ก็พยายามเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้น หรือในบางกิจการเลือกที่จะทำทั้งสองอย่างพร้อมๆ กัน
อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA หรือ Return on Asset)
อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ แสดงถึงความ สามารถในการทำกำไรของสินทรัพย์ทั้งหมดที่ กิจการนั้นใช้ในการดำเนินงาน ยิ่งมีค่ามาก ยิ่งแสดงว่าบริษัทมีความสามารถในการทำกำไร ได้มาก
อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์สามารถคำนวนได้จาก
ROA = กำไรสุทธิ/สินทรัพย์รวม(เฉลี่ย) * 100 (%)
หาก ROA ที่คำนวณได้มีค่ามาก แสดงว่ากิจการได้นำสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปใช้ในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ได้ผลตอบแทนรับผลตอบแทนสูง แต่หาก ROA ที่คำนวณได้มีค่าน้อย แสดงว่ากิจการได้นำสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปใช้ในการดำเนินงานได้อย่างไร้ประสิทธิภาพ ทำให้ผลตอบแทนจากการใช้สินทรัพย์ไม่ดีเท่าที่ควร
อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE หรือ Return on Equity)
อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น แสดงถึงความ สามารถในการทำกำไรจากส่วนของผู้ถือหุ้น เป็นการวัด ผลตอบแทนต่อส่วนของทุนของบริษัทว่าให้ผลเฉลี่ย ในระดับใด ยิ่งมีค่ามากก็แสดงว่าผู้บริหารของบริษัทนั้นมีฝีมือในการบริหารงานดี ผู้ถือหุ้นมีโอกาสได้รับ ผลตอบแทนมาก
อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์สามารถคำนวนได้จาก
ROE = กำไรสุทธิ x 100 / รวมส่วนของผู้ถือหุ้น มีหน่วยเป็น %
ควรมีค่าสูง เพราะแสดงว่ากิจการสามารถให้ผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้นสูง ผู้ถือหุ้นมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง แต่หากมีค่าต่ำ แสดงว่าความสามารถในการทำกำไรของกิจการที่ยังไม่มีประสิทธิภาพ สร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นที่ต่ำ
ข้อสังเกต ต้องระวังค่า ROE สูงๆ ที่เกิดจากกิจการที่มีหนี้สินมากๆ เพราะการมีหนี้สินถือว่าเป็นการ Leverage หรือกิจการที่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ทุน) มีแนวโน้มลดลง ดังนั้น จึงต้องประเมินความเสี่ยงของกิจการควบคู่กันไปด้วย