ส่องปัจจัยที่ส่งผลต่อการลงทุนของแต่ละคน

1 Min Read
การเงินการลงทุน

การลงทุนมีหลายหลายรูปแบบ แต่ละคนก็มีความชอบ หรือความต้องการเลือกลงทุนในรูปแบบต่างๆ ที่แตกต่างกันไปย่อมขึ้นกับปัจจัยในหลายประเด็น เช่น

อายุของผู้ลงทุน การลงทุนในแต่ละช่วงอายุจะมีความแตกต่างกันไป ภายใต้สภาวะแวดล้อมของแต่ละช่วงอายุ ผู้ลงทุนที่มีอายุน้อยหรืออายุระหว่าง 25 – 40 ปี มักจะมีความกล้าเสี่ยงและสนใจลงทุนในหลักทรัพย์ที่ก่อให้เกิดความเพิ่มพูนแก่เงินลงทุน สามารถยอมรับการขาดทุนได้ในระดับหนึ่ง ในขณะที่ผู้ลงทุนซึ่งมีอายุระหว่าง 40 – 50 ปี อาจสนใจลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้รายได้ประจำหรือรายได้ที่สม่ำเสมอ หรือการต้องการความมั่นคง

ภาระและหน้าที่ความรับผิดชอบ ผู้ลงทุนอาจมีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบของครอบครัว คู่ครอง บุตร เช่น ส่งเสียบุตรเพื่อการศึกษา จึงทำให้มีความจำเป็นจะต้องลงทุนในหลักทรัพย์ที่มั่นคงและให้รายได้ที่แน่นอน ไม่ให้เกิดการขาดทุนจนเดือดร้อนภายในครอบครัว ในขณะที่คนโสดอาจมีภาระความรับผิดชอบที่น้อยกว่า ย่อมลงทุนให้หลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงได้มากกว่า

สุขภาพของผู้ลงทุน ปัญหาเรื่องสุขภาพของผู้ลงทุนมีผลต่อการกำหนดนโยบายการลงทุนของผู้ลงทุน เพราะผู้ลงทุนที่มีสุขภาพไม่สมบูรณ์ย่อมต้องการรายได้ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมากกว่าหวังผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นิสัยส่วนตัวของผู้ลงทุน ความแตกต่างของนิสัยผู้ลงทุนในแต่ละคนย่อมเกิดความแตกต่างของนโยบายการลงทุน นักลงทุนที่มีนิสัยตระหนี่ หรือเป็นผู้ปฏิเสธความเสี่ยง (Risk averse) อาจไม่มีความจำเป็นต้องใช้รายได้ที่ได้รับจากการลงทุนในหลักทรัพย์ แต่อาจลงทุนในหลักทรัพย์ของธุรกิจที่มีการขยายตัวในอนาคต ในทางตรงกันข้าม ผู้ลงทุนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หรือชอบความเสี่ยง (Risk lover) ย่อมต้องการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีผลตอบแทนสูงเพื่อสนับสนุนรายจ่ายในปัจจุบัน

ความจำเป็นของผู้ลงทุนแต่ละราย บางคนอาจมีความจำเป็นทางด้านการเงิน บางคนอาจมีความจำเป็นในแง่ของความรู้สึกและจิตใจ นักลงทุนบางประเภทอาจมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บสะสมเงินไว้เพื่อใช้ในยามชรา เพื่อการศึกษา หรือเพื่อปรับฐานะการครองชีพของตนเองให้ดีขึ้น

มีผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ ได้แก่ อายุงาน จำนวนสมาชิกที่ต้องอุปการะเลี้ยงดู รายได้พิเศษ รายจ่ายเพื่อการบริโภค ความปลอดภัยของเงินลงทุน รายได้ผลตอบแทนที่แน่นอน การงอกเงยของเงินลงทุนที่แน่นอน (กำไรหรือดอกเบี้ย) การกระจายเงินลงทุน อำนาจในการบริหารการลงทุน สิทธิพิเศษต่างๆ ที่จะได้รับจากการลงทุน การลงทุนที่รักษาอำนาจซื้อให้คงไว้ รวมถึงทัศนคติเกี่ยวกับการประสบความสำเร็จในชีวิต

นอกเหนือจากนี้ แนะนำว่า คนวัย 20-29 ปีที่ยังไม่เป็นผู้ลงทุนในตลาดหุ้นสามารถจัดประเภทได้เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ที่พร้อมจะเป็นลูกค้า (Soon-to-be) ผู้ปฏิเสธ (Refusing) และ ผู้ตกสำรวจ (Unexplored) ซึ่งคนทุกกลุ่มมีทัศนคติเกี่ยวกับการลงทุนที่คล้ายคลึงกัน กล่าวคือ คิดว่าไม่มีเงินมากพอสำหรับการลงทุน ไม่มีความรู้และไม่กล้าเสี่ยงที่จะลงทุนในตลาดหุ้น แต่กลุ่มผู้ที่พร้อมจะเป็นลูกค้า มีฐานะทางการเงิน ระดับความรู้และการยอมรับความเสี่ยงสูงกว่า กลุ่มผู้ปฏิเสธมีระดับความรู้และการยอมรับความเสี่ยงต่ำกว่า ส่วนกลุ่มผู้ตกสำรวจมีข้อจำกัดด้านเงินลงทุน ความรู้และการยอมรับความเสี่ยงต่ำที่สุด ดังนั้นผู้วิจัยจึงสรุปว่า การดึงดูดคนวัยดังกล่าวเข้าสู่การลงทุนในตลาดทุนควรเปลี่ยนทัศนคติให้เห็นว่าการลงทุนในตลาดหุ้นเป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนเริ่มแรกเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากธนาคาร

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

Share this Article
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่