IMH – บริษัท โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) กลุ่มอุตสาหกรรม บริการ ลักษณะธุรกิจ ดำเนินกิจการให้บริการตรวจสุขภาพทั้งในและนอกสถานที่ โดยมีสาขาทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่ ราชพฤกษ์ (ที่ตั้งสำนักงานใหญ่) ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี และระยอง นอกจากนี้บริษัทย่อยยังประกอบธุรกิจให้บริการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม
บริการทางการแพทย์ของบริษัท ได้แก่ การให้บริการตรวจสุขภาพประจำปี การตรวจสุขภาพปัจจัยเสี่ยง การตรวจสุขภาพก่อนเข้างาน และการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าว ด้วยทีมแพทย์และพยาบาล ที่มีความเชี่ยว ชาญ และประสบการณ์ในสาขาที่เกี่ยวข้องพร้อมด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน สามารถให้บริการตรวจสุขภาพครอบคลุมทั่วประเทศ ผ่านทางรถเอ็กซ์เรย์ มีสาขาทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่ ราชพฤกษ์ (ที่ตั้งสำนักงานใหญ่) ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี และระยอง
บริการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม เน้นให้บริการตรวจวัดทางด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในโรงงานและสำนักงาน โดยให้บริการภายใต้การดำเนินงานของบริษัทย่อยที่ชื่อ บริษัท แอคคิวฟาส แล็บ เซ็นเตอร์ จำกัด
กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค นิคมอุตสาหกรรมนวนคร และนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และฐานลูกค้าเป็นบริษัทขนาดใหญ่
วัตถุประสงค์ระดมทุนเพื่อซื้อเครื่องมือการแพทย์ ปรับปรุงสาขา ชำระคืนเงินกู้ยืม
– โครงการลงทุนขยายและหรือปรับปรุงพื้นที่สาขาไม่เกิน 4 สาขา มูลค่าการลงทุนต่อสาขาประมาณ 10-25 ล้านบาท
– จัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ของบริษัทและบริษัทย่อย เพื่อลดค่าเช่าในเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ และรวมถึงรถ X-RAY ไม่เกิน 100 ล้านบาท
– ลงทุนและหรือร่วมมือในกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท หาโอกาสในการลงทุนในกิจการอื่นเพิ่มเติม
– โครงการอื่นๆ จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
ข้อมูลการเงิน กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิปี 2559 – 2561 และงวด 9 เดือน ปี 2562 เท่ากับ 37.58 ล้านบาท 14.85 ล้านบาท 14.06 ล้านบาท และ 6.72 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 12.95%, 5.35% , 4.36% และ 2.83% ตามลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ สิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์ ถือหุ้น 33.54 %, ปรมาภรณ์ ปวโรจน์กิจ ถือหุ้น 14.88 %, เสถียร พรยืนยง ถือหุ้น 13.40 % กลุ่มบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมค่อนข้างต่ำ กลุ่มบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมในปี 2559-2561 และงวด 9 เดือน ปี 2562 เท่ากับ 0.73 เท่า 0.59 เท่า 0.75 เท่า และ 0.86 เท่า ซึ่งจะเห็นได้ว่ากลุ่มบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมค่อนข้างต่ำ
นโยบายการจ่ายปันผล ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและเงินสำรองอื่น
เปิดทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก 26 ธ.ค. 62 ซึ่งพบว่าราคาหุ้นช่วงเปิดอยู่ที่ระดับ 5.70 บาท หรือปรับลดลงราว 5% จากราคาจองซื้อไอพีโอ (IPO) ที่ 6.00 บาท ปิดวันแรกที่ 4.72 บาท ลดลง 1.28 บาท (-21.33%) จากการลดลงของราคาอาจเพราะเป็นไปตามภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากเป็นช่วงก่อนวันหยุดยาว ทำให้มีมูลค่าการซื้อขายค่อนข้างน้อย