SFLEX บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) กลุ่มอุตสาหกรรม สินค้าอุตสาหกรรม หมวด ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) สำหรับสินค้าอุปโภคและบริโภค ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (Made to Order) โดยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ประเภทม้วน (Roll Form) และบรรจุภัณฑ์ประเภทซอง (Pre Form Pouch)
SFLEX มีเป้าหมายที่ต้องการเป็นผู้นำทางด้านบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) ทั้งในประเทศไทย และประเทศในกลุ่ม CLMV
ปี 2561 ก่อนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์มีรายได้รวม 1,374.25 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 136.11 ล้านบาท และงบการเงินที่ไตรมาส 3 มีรายได้รวมจำนวน 943.22 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 46.42 ล้านบาท
ด้านนโยบายจ่ายเงินปันผล จะจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ และหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามกฎหมายกำหนด โดยการพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท
ผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกได้แก่
1) นายปรินทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์ ถือหุ้น 49.76%
2) นายเอก พิจารณ์จิตร ถือหุ้น10.98%
3) นางสาวกชกร วณิชานุวัตร ถือหุ้น 6.59%
ทั้งนี้ SFLEX ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 110 ล้านหุ้น มีมูลค่าที่ตราไว้ 1 บาทต่อหุ้น ในราคา 3.88 บาท/หุ้น โดยจะเสนอขายให้แก่ประชาชนจำนวน 99 ล้านหุ้น คิดเป็น 24.15% และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ จำนวน 11 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.68% ซึ่งหุ้นทั้งสองส่วนจะเสนอขายในราคาเดียวกัน
SFLEX ปิดเทรดวันแรกที่ 3.76 บาท ลดลง 0.12 บาท จากราคาจองที่ 3.88 บ. หรือลดลง 3.09% โดยเปิดตลาดที่ 3.64 บาท สูงสุด 3.94 บาท ต่ำสุด 3.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 335.30 ล้านบาท
SFLEX ด้วยประสบการณ์ของผู้ถือหุ้นหลัก ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจมากว่า 32 ปี และศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนชั้นนำในประเทศไทย และมีจุดแข็ง คือ บริษัทฯ มีการทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดในการพัฒนาและออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้ยอดขายที่ผ่านมาของบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายฐานลูกค้า ทั้งในส่วนของบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภค และขยายตลาดไปยังกลุ่มบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าบริโภคมากขึ้น
นายปรินทร์ธรณ์ กล่าวยืนยันว่า “มั่นใจหุ้น SFLEX จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน และสามารถยืนเหนือราคาจองได้ ผมเชื่อมั่นในพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ที่เป็นผู้นำในธุรกิจ Flexible Packaging ในกลุ่มประเทศ CLMV และการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า และพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ตามเป้าหมายที่บริษัทฯ มุ่งหวังไว้ และจะไม่ทำให้นักลงทุนทุกท่านผิดหวัง”