อ่านงบเป็นจะหาหุ้นถูกเป็น ความกล้าอย่างเดียวมันไม่พอในตลาดหุ้น มันต้องเอาความรู้นำ แล้วความกล้าตาม ความรู้ที่ช่วยให้เราหาหุ้นถูก ก็คือ อ่านงบการเงินได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตามดูงบการเงิน ซึ่งสาระสำคัญ ของงบการเงินที่นักลงทุนต้องพิจารณา มีอยู่ด้วยกัน 3 งบ และ 1 รายงาน คือ
- งบแสดงฐานะการเงิน หรือ งบดุล (Balance Sheet) ใช้ดูฐานะและโครงสร้างทางการเงิน
- งบกำไรขาดทุน (Income Statement) ใช้ดูผลการดำเนินงานของบริษัท เราต้องการหุ้นที่ รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม
- งบกระแสเงินสด (หรือ Cash Flow Statement) ใช้ดูที่มาที่ไปของกระแสเงินสดของกิจการ
- Notes to Financial Statement ใช้ดูขยายความรายการต่างๆ ในงบการเงินทั้งสาม ดูคดีความฟ้องร้อง และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
อ่านกราฟหุ้นได้ จะเข้าซื้อในจังหวะที่ถูก คนส่วนใหญ่ซื้อหุ้นแล้วติดดอย เพราะไม่ได้ดูกราฟหุ้นก่อนซื้อ หรือซื้อหุ้นตอนที่ราคาสูงที่สุดเลย กราฟแท่งเทียนเป็นประเภทของกราฟที่ได้รับความนิยมและถูกใช้มากที่สุดประเภทหนึ่ง ทำความเข้าใจและหลักการของแปลความหมายกราฟแท่งเทียนมากกว่าการใช้ความจำ
เริ่มเงินน้อย ดีกว่าเริ่มเงินเยอะ หลักการของการเล่นหุ้นด้วยเงินน้อย ๆ ก็คือ ต้องหาหุ้นที่มีโอกาสปรับตัวขึ้นสูง แต่มีความเสี่ยงต่ำ ตลาดหุ้นทำเงินได้เร็วจริง แต่เวลาเสียก็เร็วเช่นกัน คนที่เริ่มด้วยเงินน้อย มักได้เปรียบเพราะ เวลาเสียหายมันน้อยกว่า พูดง่ายๆ ว่า ค่าเรียนรู้ถูก เงินน้อยจึงไม่ใช่ข้อจำกัด แต่เป็นความได้เปรียบของผู้เริ่มต้น
อย่าลงทุนเพราะตามกระแสหรือตามคนอื่น แต่ละคนมีสไตล์การลงทุนต่างกัน บางคนเป็นนักเทคนิคอลที่ชอบหุ้นในแบบหนึ่ง อาจจะต่างกับอีกคนที่ชอบหุ้นพื้นฐาน มีสไตล์การลงทุนและมีการคัดหุ้นในอีกรูปแบบหนึ่ง
ใจต้องนิ่ง ไม่ขี้ตกใจ หลายคนเสียหายหนักเวลาตลาดเกิดวิกฤต สิ่งที่ต้องทำคือ เราเตรียมพร้อมรับวิกฤตตลอดเวลา ถ้าเตรียมพร้อม เราก็จะไม่ตกใจ อาจซื้อหุ้นเพิ่มด้วยซ้ำเวลาเกิดวิกฤต อย่าสนใจข่าวลือหรือ “หุ้นเด็ด” ที่เราได้ยินมาไม่ว่าจะมาจากเซียน คนในหรือ Insider ของบริษัท หรือจากคนแปลกหน้าในงานเลี้ยง เชื่อเถอะว่าถ้าเราได้ยินก็คงมีคนอีกไม่น้อยที่ได้ยิน ข่าวหรือข้อมูลแบบนี้ไม่มีความหมายอะไรนอกจากจะทำให้เราเสียเงิน
เพิ่มความรู้ใส่สมอง ในตลาดหุ้นมันต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจ ถ้าใครเข้ามาแล้วเดาเอา ซื้อหุ้นอาศัยดวงและอารมณ์ล้วนๆ รับรองว่าอยู่ได้ไม่นานครับ และคนส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนั้น ขี้เกียจเรียนรู้ บอกหุ้นมาเดี๋ยวซื้อตาม ก็เพราะแบบนี้แหละครับถึงต้องออกจากวงการนี้ ก่อนเวลาอันควร เพราะฉะนั้นคุณจะต้องเรียนรู้ ไม่ว่าจะศึกษาจากการอ่านหนังสือ หาข้อมูลจากเวป หรือไปอบรม ก็แล้วแต่แบบไหนสะดวกก็จัดไป
ให้ความสำคัญกับตัวกิจการ หรือตัวหุ้นมากกว่าสภาพตลาดหรือเศรษฐกิจโดยทั่วไป เพราะถึงแม้ว่าสภาพทางเศรษฐกิจอาจจะไม่ดีแต่ตัวบริษัทก็อาจจะดีได้ นอกจากนั้น ถึงกิจการอาจจะไม่ดีนักแต่ราคาหุ้นก็อาจจะต่ำกว่าพื้นฐานมาก ดังนั้น อย่าให้ภาพของตลาดหรือเศรษฐกิจมาหันเหการตัดสินใจซื้อหุ้นของเรา
ตั้งเป้าหมายให้ชัด ว่าเราจะเป็นนักลงทุนระยาว เอาปันผล หรือระยะสั้น เก็งกำไร เพราะถ้ามั่วๆ เอา แบบนี้เดินทางสู่ความสำเร็จลำบาก เล่นหุ้นแบบไม่มีเป้าหมาย ก็ยากที่จะอยู่ได้นาน ลองคิดดูถ้าก่อนซื้อหุ้นคุณอยากจะเก็งกำไร แต่พอติดหุ้นก็เปลี่ยนใจถือยาวแล้วกัน หรือตัวที่คิดจะถือยาวพอเห็นกำไรนิดหน่อยก็ขายออกมาแล้ว มาแนวนี้ไม่ดีแน่นอน ลองค้นหา ตั้งเป้าหมายตัวเองให้ชัด จะเอาแนวไหนก็เลือกสักทาง
เตรียมใจให้พร้อม เพราะเมื่ออยู่ในสนามจริง หุ้นมันจะวิ่งขึ้นวิ่งลง การควบคุมอารมณ์และจิตใจเป็นสิ่งสำคัญ ถึงแม้เราจะมีความรู้ที่ได้จากการอ่านมา พอลงสนามจริงเจอหุ้นวิ่งขึ้น วิ่งลง สิ่งที่ศึกษามาลืมหมด เห็นหุ้นลงหน่อยตกใจขายทิ้ง เพราะกลัวมันลงแรง ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงจุด stop loss ที่เราวางแผนไว้ หรือแม้แต่หุ้นที่เราซื้อมันวิ่งขึ้นได้กำไร ตั้งใจจะถือยาวๆ แต่อดใจไม่ไหว ขายออกมาก่อนเวลาอันควร แบบนี้ก็ไม่ดี ต้องฝึกควบคุมอารมณ์
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่
