แม้แต่.. “บรู๊คลิน แบ็คแฮม” (ฺBrooklyn Beckham) ก็มีชีวิตที่ทั้ง ‘โชคดีและโชคร้าย’ !!!!!
สื่ออเมริกา ET ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ของวิคตอเรีย และเดวิด เบ็คแฮม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่ The Annenberg Space for Photography (พิพิธภัณฑ์เพื่อช่างถ่ายรูป) ในลอสแองเจลิส เพื่อเฉลิมฉลองในการเปิดตัวสมุดภาพถ่ายของหนุ่มบรู๊คลิน ในระหว่างการสัมภาษณ์ บรู๊คลินได้เปิดใจเรื่องเกี่ยวกับความรักฉบับที่ 1 ของเขา มันเหมือนกับการเติบโตขึ้นของเบ็คแฮม และเหตุผลที่เขาตัดสินใจที่จะไม่เดินตามรอยเท้าของพ่อ ซึ่งเป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพที่มีชื่อเสียง
บรู๊คลิน บอกว่า เขาพยายามเล่นฟุตบอลมาเป็นเวลา 15 ปี โดยเริ่มตั้งแต่อายุ 2 ขวบ และอธิบายต่อว่า…
“I had a lot of pressure on me, Every time I made a mistake everyone was looking at me like, ‘Oh my God, like, he made a mistake.'”
“ผมรู้สึกกดดันมาก ทุกครั้งที่ผมทำพลาด ทุกคนจะมองผมว่า โอ้ พระเจ้า เขาทำทำพลาด”
“I still really enjoy it and I still watch it with my dad all the time, But I kinda just wanted to go in my own direction.”
“ผมยังคงสนุกไปกับมัน และยังคงดูมันกับพ่ออยู่ตลอดเวลา แต่ผมแค่ต้องการให้มันไปในทิศทางของผมเอง”
ผลงานภาพถ่ายของบรู๊คลิน
สำหรับเส้นทางของหนุ่มบรู๊คลินนั้น ได้เริ่มต้นขึ้นตอนที่กำลังขึ้นเรียนในระดับมัธยมที่ลอนดอน เขาบอกว่า กำลังจะผ่านรายการหลักสูตรกับแม่ของเขา เมื่อไรที่จะถ่ายรูปก็เพียงแค่ ยื่นออกไป
“My mom was like, ‘Do it. If you don’t like it, you can [switch]’, So I did it and then my dad bought me my first camera when I was 15 … a Pentax K1000.”
“แม่ของผมก็ชอบทำมัน (หมายถึง การถ่ายรูป) ถ้าคุณไม่ชอบมัน คุณสามารถเปลี่ยนได้ ดังนั้นผมจึงทำมัน และพ่อของผมก็ซื้อกล้องถ่ายรูปตัวแรกให้ เมื่อตอนที่ผมอายุ 15 ปี เป็นกล้องยี่ห้อ Pentax รุ่น K1000”
“I just started carrying it everywhere with me, posting on my Instagram, And then I just really enjoyed it and I found out I was pretty good at it. So I just stuck with it.”
“ผมเพิ่งแค่เริ่มต้นแบกติดตัวไปทุกที่ที่มีผม ผมโพสต์ลงบนอินสตาแกรมของผม และผมก็สนุกกับมันมาก และผมคิดว่าผมเก่งในเรื่องนี้ ดังนั้นผมเพียงแค่ยอมรับมัน”
ผลงานภาพถ่ายของบรู๊คลิน
อินสตาแกรมของบรู๊คลิน มีชื่อแอ็คเคาท์ว่า brooklynbeckham (ลองจิ้มดู) เมื่อเลื่อนดูอย่างรวดเร็วจะเห็นได้ว่าลูกชายคนโตของตระกูลแบ็คแฮมนั้น มีตาสำหรับการถ่ายภาพอย่างชัดเจน และพ่อแม่ของเขาก็อาจไม่สามารถภูมิใจมากกว่านี้ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้เห็นผลของบรู๊คลินที่ได้รับเกียรติในการจัดนิทรรศการศิลปะ และได้รับการเผยแพร่ในหนังสือภาพถ่าย
“My mom cried, Like, the last day I was getting everything finished, like the paper material and all that. So, yeah, my mom cried. She’s really proud.”
“แม่ของผมร้องไห้ มันเมือนเป็นวันสุดท้ายที่ผมทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จ เนื้อหาในกระดาษ และทั้งหมด ดังนั้น ใช่ แม่ของผมร้องไห้ เธอภูมิใจมากจริงๆ”
ผลงานภาพถ่ายของบรู๊คลิน
บรู๊คลิน กล่าวว่า พ่อของเขาก็ชอบถ่ายรูป แต่แม่ของเขาจะโฟกัสไปที่แฟชั่น แม่ของผมชอบถ่ายภาพของเธอ เขาพูดติดตลก ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องเดียวกัน เขายอมรับว่า เขาทำตัวเหมือนพ่อ แต่ดูคล้ายกับแม่ และจะมุ่งหน้าไปยัง Big Apple (ชื่อเล่นของมหานครนิวยอร์ก)
“I’m actually moving to New York in August to study photography for four years, I’m really excited. Photography is [it], that’s what I really want to do.”
“ผมย้ายไปนิวยอร์กในเดือนสิงหาคม เพื่อที่จะเรียนถ่ายรูปเป้นเวลา 4 ปี ผมรู้สึกตื่นเต้น การถ่ายรูปคือสิ่งที่ผมอยากจะทำจริงๆ”
“I mean, I love taking photos, So I think this is it for me. I’ve been interning for [British fashion photographer] Nick Knight, which was really fun, it was really cool to do. He’s an awesome guy. He puts me to work!”
“ผมหมายถึง ผมรักการถ่ายรูป ดังนั้นผมคิดว่านี่แหละมันเพื่อผมเอง ผมเคยฝึกงานกับช่างภาพแฟชั่นชาวอังกฤษ ชื่อ Nick Knight (นิค ไนซ์) ซึ่งมันสนุกมากจริงๆ มันเจ๋งที่ได้ทำ เขาเป็นผู้ายที่น่ากลัว เขาทำให้ผมต้องทำงาน”
ผลงานภาพถ่ายของบรู๊คลิน
แต่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงเพราะเขามาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียง แล้วเขาจะได้รับสิทธิพิเศษ บรู๊คลินบอกว่า เขาโตขึ้นมากับนักกีฬาฟุตบอลมืออาชีพในฐานะพ่อ และแม่ของเขาเป็นอดีตเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง Spice Girl (สไปซ์เกิร์ล) เนื่องจากมีข้อได้เปรียบมากมาย แต่ยังมีข้อเสียอีกด้วย
“I feel like it has its ups and downs, I feel like I get opportunities that most people my age don’t get.”
“ผมรู้สึกว่ามันทั้งโชคดี และโชคร้าย ผมรู้สึกว่าผมได้รับโอกาสที่คนส่วนใหญ่อายุเท่าผม ไม่ได้รับ”
ผลงานภาพถ่ายของบรู๊คลิน
“But, like, I can’t do what most 18 year olds do, Like, I can’t go out partying all the time, I have to work and get up early. So it kind of has its ups and downs.”
“แต่ผมไม่สามารถทำอะไรได้มาก ใน 18 ปี ผมไม่สามารถออกไปปาร์ตี้ได้ตลอดเวลา ผมต้องทำงาน และต้องตื่นแต่เช้า ดังนั้นมันอยู่ในลักษณะที่ทั้งโชคดี และโชคร้าย”
ขอบคุณข้อมูลจาก : ETonline
