“ปามุกกาเล” (Pamukkale) แปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) มาจากคำว่า ปามุก หมายถึง ฝ้าย และ กาเล หมายถึง ปราสาท นำมารวมกันเป็น ปามุกกาเล ตั้งอยู่ในเมืองปามุกกาเล จังหวัดเดนิซลี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี เป็นเนินเขาสีขาวของหินปูนทำปฏิกิริยากับอากาศ จับตัวแข็งกลายเป็นแอ่ง เป็นริ้ว ชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นปะดิมากรรมทางธรรมชาติ ที่มีความสวยงาม อแปลกต่ และมีธารน้ำแร่ใต้ดินผุดขึ้นมาบนพื้นผิวจากภูเขาคาลดากึ ส่วนสีขาวนั้น เกิดจากน้ำพุร้อนที่นำแคลเซียมคาร์บอเนตมาตกตะกอน มียาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร สูง 160 เมตร
เรียกได้ว่า ปามุกกาเล เป็นสระว่ายน้ำแบบอินฟินิจี้พูลจริงๆ อยู่กลาง มองวิวทิวทัศน์ได้รอบทิศทาง เป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี สามารถลงไปแช่ได้ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิประมาณ 33-35.5 องศาเซลเซียส ผู้คนนิยมไปแช่ และดื่ม เพราะเชื่อว่าน้ำแร่มีคุณสมบัติในการรักษาโรคต่างๆ ได้ ในปัจจุบัน ประเทศตุรกีจึงจำลองแอ่งน้ำขึ้นมาใหม่ แอ่งน้ำเสมือนจริง แต่ใส่น้ำแร่จริงๆ ลงไปในแอ่ง ให้นักท่องเที่ยวได้แหวกว่าย แช่น้ำแร่กันอย่างเพลิดเพลิน ขอบอกเลยว่าสร้างได้เนียนมากๆ เหมือนของจริง ซึ่งที่ต้องทำแบบนี้ก็เพราะว่า น้ำแร่ที่นี่โด่งดังมาก จนมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาตลอด ไม่ขาดสาย มีผู้คนเล่นน้ำ แช่น้ำแร่กันเป็นจำนวนมาก ทำให้ธรรมชาติของปามุกกาเลถูกทำลาย จึงมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ห้ามนักท่องเที่ยวลงแช่ หรือเล่นน้ำในแอ่ง
ยามเย็นของปามุกกาเล
นักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันอย่างมากมาย
นักท่องเที่ยวมาแช่น้ำแร่ ถ่ายรูป ไปกับความสวยงาม
ธรรมชาติสรรค์สร้างสิ่งสวยงามนี้ขึ้นมา
หินปูนสีขาว น้ำสีฟ้าใส สวยงามมากกก
วิวเมืองปามุกกาเล
วิวเมืองปามุกกาเล
วิวปามุกกาเล แบบพาโนราม่า
ปามุกกาเล ถูกจัดเป็นมรดกโลกร่วมกับ ฮีเอราโปลิส พร้อมกันในปี 1988 ซึ่งเป็นเมืองโบราณ ที่มีซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างในสมัยโบราณ และมีพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ มีความสวยงามมากๆ ใครวางแพลนไปเที่ยวต่างประเทศ แนะนำประเทศตุรกีเลยจ้าาาา
ภาพของเมืองโบราณ ฮีเอราโปลิส :
ขอบคุณข้อมูลจาก : wikipedia
