สำหรับรองเท้าผ้าใบสีขาวนั้น มาแรงไม่มีตกจริงๆ กลายเป็นรองเท้าประจำตัวของใครหลายๆ คนไปแล้ว เพราะสามารถใส่ได้ตลอด เป็นสีที่สุภาพ และแมทช์เข้ากับชุดได้ง่ายมาก ผู้คนส่วนใหญ่จึงเลือกซื้อผ้าใบสีขาวมาติดตู้ไว้ แหม่ แต่ตอนสมัยมัธยมนี่นะ อยากใส่รองเท้าผ้าใบสีๆ จังเลย แบบให้มันดูมีอะไรหน่อย มันจะเรียบร้อยเกินไป แต่แล้วพอโตขึ้นมาก็อยากใส่สีขาวขึ้นมาซะงั้น ฮ่าๆๆ สนีกเกอร์ที่ค่อนมาแรงในช่วงนี้ ส่วนใหญ่เป็นรองเท้ายอดนิยม ซึ่งเชื่อว่าหลายๆ คนคงมีติดตู้กันบ้างแล้ว เช่น อดิดาส สแตนสมิธ, คอนเวิร์ส เป็น้ต้น วันนี้เราจะพาไปชม 10 สนีกเกอร์ที่มาแรงในปี 2018 กัน บอกเลยว่าเป็นสนีกเกอร์ที่ควรมีติดตู้ไว้จริงๆ นะ ใส่เที่ยว ใส่ทำงาน ก็เวิร์คไปหมด
♥ Adidas : Stan Smith Originals
ใส่กันทั่วบ้านทั่วเมืองจริงๆ ทั้งนักเรียน นักศึกษา รวมไปถึงคนทำงาน เชื่อว่า หลายๆ คนมีกันอยู่แล้ว สำหรับอดิดาส สแตน สมิธ สนีกเกอร์ดีไซน์ดั้งเดิมจากปี 1970 พื้นรองเท้าทำจากยาง ตัวรองเท้าทำจากหนัง ด้านข้างเจาะรู 3 แทบ ระบายอากาศได้ดี ดีไซน์สวย ทันสมัย ราคา 3,500.- บาท
♥ Nike : Classic Cortez
รองเท้าวิ่งรุ่นออริจินัลของไนกี้ ดีไซน์โดย บิล โบเวอร์แมน ในปี 1972 โดดเด่นด้วยวัสดุจากหนัง น้ำหนักเบา ลดแรงกระแทก สวมใส่สบาย เป็นรองเท้าเทรนนิ่งยอดนิยม สายสตรีทไม่ควรพลาด ราคา 2,700.- บาท
♥ Reebok : Classic Leather
รีบ็อก คลาสสิค รองเท้าที่แฝงไปด้วยจิตวิญญาณ ตั้งแต่ปี 1983 รองเท้าวิ่งที่ผลิตด้วยหนังพรีเมียมสไตล์คลาสสิค เป็นรองเท้าไอค่อนที่มีชื่อเสียงในอดีต ณ ปัจจุบัน ก็กลับมาฮิตอีกครั้ง น้ำหนักเบา ทนทาน สะดวกสบาย สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน ราคา 3,500.- บาท
♥ Skechers : D’Lites
สเก็ตเชอร์ส ดีไลท์ส เป็นสนีกเกอร์ต้นแบบของบาลองเซียก้า ทริปเปิ้ลเอส และมีราคาที่ถูกกว่ามาก เคยเป็นรองเท้าที่โด่งดังมากๆ ในอดีต เคยเป็นรองเท้าคู่โปรดของวง Spice Girl (เกิร์ลกรุ๊ปของแม่วิคตอเรีย เบ็คแฮม) รองเท้าผ้าใบที่สวมใส่สบาย ด้วยพื้นรองเท้าที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ราคาหลักพัน เบาสบายกระเป๋ากว่าบาลองเยอะเลยจ้าา
♥ Balenciaga : Triple S
บาลองเซียก้า ทริปเปิ้ล เอส รองเท้าแบรนด์หรู ที่มีสไตล์สุดเก๋ กับพื้นรองเท้าสไตล์ส้นตึกเป็นชั้นๆ พื้นยางหนา ปักชื่อแบรนด์ด้านข้าง ได้รับแรงบันดาลใจการดีไซน์มาจากกีฬา 3 ชนิด คือ บาสเกตบอล, วิ่ง และกีฬาประเภทลู่และลาน (กรีฑา) กลายสนีกเกอร์สุดร้อนแรง ที่ทุกคนตามหา เพราะแมทช์กับเสื้อผ้าได้ง่าย ใส่แล้วดูเป็นแฟชั่นนิสต้า กลายเป็นเซเลปบริตี้ทันที ราคาคู่ละ 39,000.- บาท บางคู่ราคาทะยานขึ้นสู่หลักแสน มีการเก็งกำไร เพราะขายดีมากๆ จนหมดเกลี้ยง
♥ Fila : Disruptor II
ไม่น่าเชื่อว่า ฟิล่า รุ่นนี้จะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศอย่างเป็นทางการ เพราะไม่มีแนวโน้มที่จะนำมาวางขายเลย จำหน่ายโดยซุปเปอร์สปอร์ท (นำเข้ามาขายแบบจำนวนจำกัด) แต่ราคาที่วางจำหน่ายค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับพรีออเดอร์จากเกาหลี ดีไซน์รองเท้าสุดแปลก พื้นใบเลื่อย ผลิตขึ้นในปี 1998 ดีไซน์ดูเทอะทะ ใหญ่ แต่สวมใส่สบายมากๆ ที่เพิ่งมาบูมในปี 2018 งบน้อย ก็เลือกแบรนด์นี้เป็นตัวเลือก สายเคป็อปไม่ควรพลาด เพราะเหล่าไอดอลใส่กันทั้งนั้น สวย เก๋ สายสตรีทแวร์ ฮิปๆ กันไปจ้า
♥ Nike : Air Force One ’07
รองเท้าบาส รุ่นในตำนาน ซึ่งตั้งชื่อตามเครื่องบินสำหรับประธานาธิบดีของอเมริกา เมื่อปี 1982 เป็นรองเท้ารุ่นแรกของเทคโนโลยี Nike Air รองเท้าที่มีความยึดเกาะ ทนทาน ลดแรงกระแทก นุ่ม มีรูปแบบดีไซน์ที่ทันสมัยผสมความคลาสสิค ไม่ใช่แค่ผู้ชายที่ใส่ ผู้หญิงก็ใส่นะจ้ะ
♥ Superga : Cotu Classic 2750
เป็นรองเท้าที่หนุ่ม บอย ปกรณ์ เป็นคนนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย มีจำหน่ายที่โรบินสัน เซ็นทรัล เอ็มโพเรียม พารากอน เดอะมอลล์ และเซ็น เป็นรองเท้าจากอิตาลี ไอเท็มคลาสสิค แต่มีสไตล์ รองเท้าผ้าใบที่สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน เข้าได้กับทุกชุด เบาสบาย ยึดเกาะ และทนทาน เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ควรมีไว้ ราคา 1,750.- บาท
♥ Keds : Champion
รองเท้าผ้าใบสุดคลาสสิค ของชาวอเมริกัน มีสไตล์ที่โดดเด่น ระบายอากาศได้ดี ยืดหยุ่น นุ่ม เป็นรองเท้าที่เหมาะกับสาวๆ เพราะเป็นรองเท้าผู้หญิง รองเท้าผ้าใบสไตล์เรียบง่าย แต่ดูดี ใส่ได้ทุกวัน ดีไซน์สวย สะอาดตา ราคา 1,890.- บาท
♥ Converse : Chuck Taylor All Star OX Classic Colors
รองเท้าผ้าใบสีขาว ของวัยมัธยมและวัยมหาวิทยาลัย ไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ คือ สามารถใส่ได้ทุกวัยจริงๆ รองเท้าคลาสสิค ที่ใส่กับอะไรก็แมทช์ไปหมด ขนาดแม่ชม ใส่กับชุดแต่งงาน ตอนแม่แต่งงาน ยังเข้ากันเลยอ่ะ คิดดู คอนเวิร์ส ชัค เทย์เลอร์ ออล สตาร์ เป็นรองเท้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี พื้นยาง ยึดเกาะพื้นผิว ใส่แล้วเก๋ ฮิป ขึ้นอยู่กับสไตล์ของแต่ละคน ราคา 1,650.- บาท