แนะนำดรอปชิป (Dropship) อาชีพมาแรง ขายของแบบไม่ต้องสต็อกสินค้า

1 Min Read

ขายของออนไลน์เดี๋ยวนี้มีหลายแบบสร้างรายได้ไม่มีสิ้นสุด แถมยังสามารถเป็นแม่ค้าออนไลน์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีสินค้าอยู่ตัวเอง นั่นคือ การขายแบบ Dropship (ดรอปชิป) นั่นเอง วันนี้เราจะมาแนะนำให้ฟังกัน พร้อมบอกทั้งข้อดี และเคล็ดลับเบื้องต้นในการขายของแบบดรอปชิปให้ขายได้ และขายดี โดย Dropship (ดรอปชิป) เป็น ารขายสินค้าแบบที่เราไม่จำเป็นต้องมีสินค้าที่จะขายเป็นของตัวเองหรือเก็บสต๊อกของไว้เอง อาจเรียกง่ายๆ ว่าเราเป็นตัวแทนจำหน่ายจะเป็นการนำสินค้าของคนอื่นมาขาย นำข้อมูลสินค้ามาโพสต์ขายลงแพลตฟอร์มโซเชียลต่าง ๆ เช่น Facebook, LINE OA, IG หรือ Twitter และบวกกำไรเพิ่ม หากเราขายสินค้าได้ เราค่อยไปสั่งสินค้าจากคนขายหรือโรงงานให้เขาส่งสินค้าให้ลูกค้าของเราอีกที

ข้อดีของการทำดรอปชิป

ไม่ต้องมีเงินลงทุนมากก็ทำได้ แค่มีพื้นที่โปรโมทสินค้าก็เพียงพอแล้ว โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ที่นิยมกันก็จะมีเฟสบุ๊ค ไอจี และเว็บไซต์ เมื่อโปรโมทตามช่องทางดังกล่าวแล้วมีลูกค้าสั่งซื้อของและจ่ายเงินเรียบร้อย คุณก็จะได้เงิน ยืดหยุ่น ขายสินค้าได้หลากหลาย มีตัวเลือกให้คุณขายได้อย่างหลากหลาย ลองหาสินค้ายอดนิยมที่กำลังเป็นกระแสมาขาย เมื่อมีสินค้าอินเทรนด์ใหม่ ๆ ก็ปรับตัวและหามาขายตามกระแสอีก ทำแบบนี้วนไป ยังไงก็ขายได้เรื่อย ๆ แน่นอน ขายได้จากทุกที่ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องสถานที่ แค่มีโทรศัพท์มือ โน้ตบุ๊ค หรือแท็บเล็ตพร้อมอินเทอร์เน็ต ก็เชื่อมต่อกับลูกค้าได้ตลอดเวลา ถ้าหากคุณกังวลว่าจะต้องเครียดเรื่องการจัดการสินค้า สต๊อกของ หรือว่าแพ็คของแล้วล่ะก็ หมดกังวลไปได้เมื่อทำธุรกิจดรอปชิป เพราะคุณแค่โพสต์ขายและโปรโมทสินค้าเท่านั้น ไม่ต้องปวดหัวเรื่องดังกล่าว เนื่องจากทางร้านหรือแบรนด์ที่คุณทำดรอปชิปให้จะทำหน้าที่จัดการสต๊อกสินค้า รวมถึงแพ็คและจัดส่งของให้กับลูกค้า ดรอปชิปจึงเป็นงานที่ทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก

ข้อเสียของการทำดรอปชิป

เนื่องจากคุณไม่ได้จัดการเรื่องสต๊อกโดยตรง คุณจึงไม่รู้จำนวนสต๊อกสินค้าที่แท้จริง ซึ่งบางทีก็ไม่รู้ว่าสินค้าที่โปรโมทมีของจริง ๆ หรือไม่ เมื่อลูกค้าคลิกเข้าไปแต่ไม่สามารถซื้อสินค้าได้ก็จะทำให้เสียโอกาสในการขายได้ อาจมีปัญหาเรื่องการจัดส่ง ควบคุมคุณภาพสินค้าได้ยาก เพราะส่วนใหญ่คุณจะทำหน้าที่โพสต์ขายหรือโปรโมทสินค้าเท่านั้น ไม่ได้ติดต่อหรือดีลกับซัพพลายเออร์โดยตรง ทำให้ไม่สามารถควบคุมคุณภาพของสินค้าที่ขายได้ตามต้องการ อีกทั้ง การขายของออนไลน์แบบดรอปชิปมักจะมีการแข่งขันสูง ทำให้ต้องขายราคาต่ำเพื่อเน้นขายในปริมาณเยอะ ๆ และลูกค้าก็มักจะซื้อร้านที่ราคาถูกกว่าด้วย พ่อค้าแม่ค้าหลายคนที่ทำดรอปชิปจึงมักกดราคาเพื่อเรียกลูกค้า ธุรกิจดรอปชิปจึงเป็นธุรกิจที่ได้กำไรน้อยแม้จะดูขายง่าย

แนะนำเว็บสำหรับการทำดรอปชิป

1. Alibaba Alibaba คือแพลตฟอร์ม E-commerce รายใหญ่จากประเทศจีน ซึ่งมีสินค้าให้เลือกทำธุรกิจในรูปแบบนี้อยู่มากมาย และส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นในประเทศจีนครับ

2. Amazon และ Ebay ทั้ง 2 แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่นี้คือ E-commerce ชื่อดังจากฝากฝั่งอเมริกา ซึ่งมีสินค้าให้เลือกมากมายหลายไม่แพ้ Alibaba ครับ แต่แพลตฟอร์มนี้ครอบคลุมผู้ผลิตสินค้าจากทั่วทุกมุมโลกมากกว่าของ Alibaba

3. Lazada และ Shoppee 2 แพลตฟอร์มนี้เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทย เพราะเป็นการซื้อสินค้าออนไลน์ของคนไทยโดยส่วนใหญ่มาจากทั้ง 2 แพลตฟอร์มนี้มากที่สุดครับ ข้อดีก็คือสินค้าที่จำหน่ายเกือบทั้งหมดเป็นสินค้าที่วางจำหน่ายอยู่ในประเทศไทย แต่ก็มีบ้างที่เป็นสินค้าที่มีบริษัทผู้ผลิตอยู่นอกประเทศ ข้อดีก็คือการติดตามการจัดส่งสินค้าที่ง่ายและรวดเร็วเพราะไม่ต้องส่งข้ามประเทศครับ

4. Youpik คือแพลตฟอร์มน้องใหม่ที่ถูกออกแบบมาในรูปแบบของ Social Commerce ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอีคอมเมิร์ซชื่อดังอย่าง Lazada นั่นเอง ใน Youpik คุณก็สามารถทำธุรกิจในรูปแบบของ Dropship ได้เช่นกัน

5. Website ต่าง ๆ ในรูปแบบของการติดต่อตัวแทนจำหน่ายสินค้านั้น ๆ  การทำ Dropship โดยการติดต่อไปยังตัวแทนจำหน่ายสินค้าโดยตรงตามเว็บไซต์ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจ แต่กระนั้นก่อนที่คุณจะทำ Dropship กับพวกเขาคุณอาจจำเป็นต้องเปิดบิลเพื่อซื้อสินค้ามาทดลองใช้ให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องเสียก่อน การเลือกทำ Dropship กับตัวแทนคุณอาจจะต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่างเป็นต้นว่าความน่าเชื่อถือของสินค้าและความมั่นคงของบริษัท เพราะหากเกิดความผิดพลาดคุณเองก็คือผู้ที่ต้องแบกรับความเสียหายไม่ใช่บริษัทเหล่านี้

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

Share this Article
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่