แกงกะหรี่ญี่ปุ่น ถือเป็นอาหารยอดนิยม ซึ่งแกงกะหรี่นั้นจะให้รสชาติอาหารที่เผ็ดร้อน เข้มข้น หอมเครื่องเทศกะหรี่ และในปัจจุบันนี้การทำแกงกะหรี่รับประทานเองที่บ้าน ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เนื่องจากมีแกงกะหรี่สำเร็จรูปรูปขายตามท้องตลาดอยู่มากมาย ราคาไม่แพง รสชาติเข้มข้นอร่อยไม่แพ้ไปกินตามร้านอาหาร สามารถซื้อแกงกะหรี่สำเร็จรูปมา ผ่านความร้อนพอประมาณ ใส่ผักและเนื้อสัตว์เพื่อเพิ่มความอร่อยที่มากกว่าเดิม หรือจะแอบใส่ช็อกโกแลตลงไป ก็เป็นอีกหนึ่งเคล็บลับความอร่อยของแกงกะหรี่ญี่ปุ่นด้วยนะ และสมัยนี้ความหลากหลายของแกงกะหรี่สำเร็จรูปก็เพิ่มมากขึ้น มีหลายรสชาติมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น แกงกะหรี่เนื้อ แกงกะหรี่หมู แกงกะหรี่ผัก เป็นต้น นอกจากสูตรที่แตกต่างกันแล้ว ระดับความเผ็ดก็จะมีให้เลือกแตกต่างกันออกไปด้วย บทความจาก za.in.th ในวันนี้เลยจะมาแนะนำ แกงกะหรี่สำเร็จรูป พร้อมทั้งข้อมูลเรื่องรสชาติ และระดับความเผ็ดใน “10 แกงกะหรี่สำเร็จรูป เคล็ดลับความอร่อย เหมือนเชฟญี่ปุ่นมาเสิร์ฟเองถึงบ้าน ยี่ห้อไหนดี 2021” รับรองว่าเข้มข้น อร่อย รสชาติดี ทุกยี่ห้อ อย่างแน่นอน
Golden Curry Sauce Mix Mild
สำหรับคนที่ชอบทำแกงกะหรี่ญี่ปุ่น บอกเลยว่าไม่มีใครที่จะไม่รู้จัก โกลเด้น เคอร์รี่ อย่างแน่นอน เป็นเครื่องเทศที่ได้รสชาติแบบดั้งเดิม ตามสไตล์แบบญี่ปุ่น มีรสสัมผัสที่เนียนนุ่ม และเข้มข้นมาก ๆ มีกลิ่นหอมจากสมุนไพรและเครื่องเทศที่รวมมาให้แล้วภายในก้อนเดียว สำหรับตัวนี้จะไม่มีส่วนผสมที่เป็นเนื้อสัตว์ เพราะฉะนั้นใครที่ไม่ทานเนื้อสัตว์สามารถใช้ยี่ห้อนี้ได้ แต่สำหรับใครที่อยากทาน ก็สามารถเติมเนื้อสัตว์ลงไปได้ในน้ำแกงเช่นกัน โดยปกติแล้วยี่ห้อนี้จะมีด้วยกันอยู่หลายระดับความเผ็ดได้แก่ สีแดง Extra Hot สีดำ Hot สีเขียว Meduim Hot และสีส้ม Mild สำหรับตัวเลือกที่ได้รับความนิยม และเป็นที่ถูกปากคนไทยมากที่สุดเลยก็คือ สีเขียว ซึ่งเป็นความเผ็ดในระดับกลางนั่นเอง ถ้าใครอยากลองชิมแกงกะหรี่ที่รสชาติอร่อยดั้งเดิม แถมทำได้ไม่ยาก ขอแนะนำให้ลองมาเลือกซื้อยี่ห้อนี้ เป็นยี่ห้อที่แพร่หลายในบ้านเรา
ปริมาณ 198 g. / ราคาประมาณ 98 บาท
House Java Curry Hot
แกงกะหรี่ญี่ปุ่นตัวนี้ เป็นแกงกะหรี่ที่ทางแบรนด์บอกว่าทำมาสำหรับผู้ใหญ่ที่รักแกงกะหรี่โดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นรสชาติที่ได้ก็จะเข้มข้นมาก ๆ และมีความเผ็ดร้อนที่รับรองว่าทานแล้วหัวโล่งอย่างแน่นอน สำหรับใครที่ชอบกินแกงกะหรี่แบบได้อารมณ์รสจัดจ้าน ขอแนะนำให้ลองเลือกซื้อยี่ห้อนี้ดู เพราะทางแบรนด์ก็ตั้งใจทำมาเพื่อขายผู้ใหญ่ที่สามารถทานเผ็ดได้แล้ว ตัวน้ำแกงที่ได้นั้น จะมีความหอมมาก ๆ เป็นความหอมในสไตล์แบบญี่ปุ่นของแท้ แต่ถึงอย่างนั้นทางแบรนด์ก็ทำออกมาให้เลือกระดับความเผ็ดเช่นกัน โดยที่สีเขียวนั้นจะเป็นความเผ็ดแบบปานกลาง และสำหรับสีแดงนั้นจะเป็นความเผ็ดที่มากขึ้นมาหน่อย สำหรับยี่ห้อนี้ขอแนะนำว่าให้ลองแบบเผ็ดสีแดง เพราะจะได้รับรสความเข้มข้นดุดันแกงกะหรี่ญี่ปุ่นอย่างเต็มที่
ปริมาณ 185 g. / ราคาประมาณ 149 บาท
Vermont Curry House
สำหรับแกงกะหรี่ญี่ปุ่นจากแบรนด์นี้ บอกเลยว่าเป็นอันดับหนึ่งที่ขายในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว ขนาดคนญี่ปุ่นยังชอบ รับรองได้เลยว่ารสชาตินั้นอร่อยแบบของแท้แน่นอน สำหรับแบรนด์นี้ทำออกมาตอบโจทย์ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ บ้านไหนที่เป็นครอบครัวที่มีเด็ก สามารถเลือกซื้อยี่ห้อนี้ได้เลย สามารถทานได้อย่างเอนจอยทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยล่ะ เพราะทำออกมาในรสชาติที่ไม่ว่าใครก็สามารถทานได้อย่างเอร็ดอร่อย รสชาติไม่เฉพาะทางเกินไป ที่สำคัญเลยก็คือยี่ห้อนี้จะมีการใส่แอปเปิ้ลและน้ำผึ้งลงไปเพื่อเพิ่มรสหวาน ทำให้รสชาติกลมกล่อมมาก ๆ เป็นแกงกะหรี่ที่ครองใจทั้งคนไทยคนญี่ปุ่นไปเลย สำหรับความเผ็ดนั้นก็มีด้วยกัน 3 ระดับคือ กล่องแดง เผ็ดน้อย กล่องเขียว เผ็ดปานกลาง และกล่องสีน้ำเงิน เผ็ดมาก ซึ่งสำหรับรสชาติของยี่ห้อนี้ ขึ้นอยู่ที่ความชอบของแต่ละคน แต่ไม่ว่าความเผ็ดระดับไหนก็อร่อยเหมือนกัน อยู่ที่ใครจะชอบความเผ็ดระดับไหน
ปริมาณ 230 g. / ราคาประมาณ 130 บาท
Yamamori Chicken Curry
แกงกะหรี่สำเร็จรูปยี่ห้อนี้บอกเลยว่า เป็นแกงกะหรี่ไก่ที่ครบรสมาก ๆ สามารถทำทานได้เองแบบสะดวกสบายสุด ๆ เพียงแค่นำไปอุ่นในไมโครเวฟ 2 นาที หรือจะนำไปอุ่นในน้ำร้อนก็ได้เช่นกัน สามารถใส่ผักและเนื้อสัตว์ได้ตามที่ต้องการ สำหรับใครที่อยากจะเบื่อแกงกะหรี่ธรรมดา ๆ ที่ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ใส่ลงไป แค่แนะนำให้ลองแบรนด์นี้ดู เพราะเขาใส่ไก่ลงไปด้วย เพราะฉะนั้นก็จะทำให้รสชาติแกงกะหรี่มีมิติมากขึ้นมาหน่อย เหมาะมากสำหรับการเป็นอาหารในวันที่ยุ่ง ๆ เพราะเป็นตัวเลือกที่อร่อย เข้มข้น ราคาไม่แพง ที่สำคัญกลิ่นหอมยั่วยวนใจมาก ๆ ใครจะอดใจไหว
ปริมาณ 180 g. / ราคา 75 บาท
Ottogi 3 Mins Quick & Easy Curry
แกงกะหรี่ตัวนี้เป็นแกงกะหรี่เนื้อที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะเป็นแกงกะหรี่สัญชาติเกาหลี แต่ความอร่อยนั้นไม่ได้หนีห่างจากแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่รักกลิ่นหอมของเนื้อ ขอบอกเลยว่าห้ามพลาด ยิ่งมาอยู่ในแกงกะหรี่ที่มีกลิ่นเครื่องเทศเฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร ทำให้แกงกะหรี่เนื้อ เป็นหนึ่งในอาหารที่ลงตัวมากที่สุดเมนูหนึ่งเลยทีเดียว และถึงแม้ว่าในบ้านเราจะหาเมนูนี้ทาน บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ก็ไม่ได้ยากอะไร เพียงแค่กดสั่งมาตุนไว้ เพียงเท่านี้ ก็จะมีแกงกะหรี่อร่อย ๆ ที่ทั้งทำง่าย สะดวกสบาย รสชาติดี ที่สำคัญมีความหอมเนื้ออย่าบอกใครเชียว
ปริมาณ 200 g. / ราคาประมาณ 99 บาท
Glico Curry
Glico Curry เป็นแกงกะหรี่ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้แบรนด์อื่น ๆ เลย เพราะว่าเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมาก ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและนอกญี่ปุ่น แน่นอนว่าเป็นยี่ห้อคุณภาพ ที่รสชาติดีเยี่ยม และเข้มข้นมาก ๆ มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตรงความหอมแกงกะหรี่ และรสสัมผัสที่นุ่มนวลและกลมกล่อม รสชาติที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากคนไทยก็คือ กล่องสีเขียว ซึ่งเผ็นรสชาติเผ็ดปานกลาง สำหรับแกงกะหรี่ตัวนี้จะมีส่วนผสมของเครื่องเทศ 20 ชนิดกันเลยทีเดียว แต่ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสม บอกเลยว่ากลิ่นชวนน้ำลายสอแบบพรีเมี่ยมสมชื่อมาก ๆ เหมือนเราได้ไปนั่งทานแกงกะหรี่ญี่ปุ่นตามร้านอาหารแพง ๆ แต่มาในราคาที่ย่อมเยาว์ แถมสามารถทำได้เอง ใส่ผักใส่เนื้อสัตว์ได้มากเท่าที่เราต้องการอีกด้วย
ปริมาณ 160 g. / ราคาประมาณ 199 บาท
Great Choice Japanese Style Curry
แกงกะหรี่ยี่ห้อนี้ หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้างอย่างแน่นอน เป็นแกงกะหรี่ ทำง่าย และมีความเข้มข้นมาก ๆ เลยก็ว่าได้ สำหรับตัวนี้จะสามารถทานได้ถึง 10-11 ที่เลยทีเดียว (น้ำปริมาณ 5 ลิตร) สำหรับใครที่ไม่อยากทำเยอะ ก็สามารถแบ่งเก็บเอาไว้ได้ สำหรับตัวนี้ วิธีการทำก็ไม่ยุ่งยากเช่นกัน เพียงแค่ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน เทส่วนผสมตามใจชอบ เช่น ผัก หรือ เนื้อสัตว์ ลงไปผัด จากนั้นเติมน้ำ ต้มให้เดือด จากนั้นก็ใส่ก้อนแกงกะหรี่ลงไป เคี่ยวด้วยไฟต่ำ เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้แกงกะหรี่สไตล์ญี่ปุ่นแบบหอม ๆ เอาไว้รับประทานแล้ว บอกเลยว่าง่ายและสะดวก ไม่จำเป็นต้องปรุงอะไรเพิ่มเติมเลย เพราะรสชาติเข้มข้นมาก ๆ เพียงแต่ต้องระวังเรื่องปริมาณน้ำอย่างเดียว ส่วนระดับความเผ็ดของตัวนี้นั้นอยู่ที่ ระดับ 7 เป็นความเผ็ดที่กำลังดีเลยล่ะ
ปริมาณ 200 g. / ราคาประมาณ 115 บาท
House Curry Sauce Vegetable Hot
สำหรับคนที่อยากทานแกงกะหรี่ผัก ขอแนะนำให้ลองตัวนี้เลย เพราะในซองนั้นจะประกอบไปด้วยผัก และซอสแกงกะหรี่ แต่ถ้าอยากทานเนื้อสัตว์เพิ่ม ก็สามารถใส่ไปได้เช่นกัน กลิ่นหอมมาก ๆ สำหรับยี่ห้อนี้ ที่วางขายทั่ว ๆ ไปในบ้านเรานั้น จะมีแบบกล่องสีฟ้าและกล่องสีเขียว โดยที่กล่องสีฟ้านั้นจะเป็นแบบเผ็ดมาก สำหรับกล่องสีเขียวจะเป็นความเผ็ดแบบกลาง ๆ แต่ขอบอกเลยว่ากล่องสีฟ้านั้น มีความเผ็ดร้อน และเข้มข้น ในระดับที่คนไทยอย่างเรา ๆ รับได้อย่างแน่นอน สำหรับตัวนี้จะนำไปอุ่นในน้ำเดือด หรือว่าจะใช้ไมโครเวฟก็ได้เหมือนกัน เหมาะสำหรับคนขี้เกียจออกไปข้างนอกแบบสุด ๆ ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มก็อร่อย
ปริมาณ 200 g. / ราคาประมาณ 98 บาท
Brook Beef Curry Japanese Style
แกงกะหรี่เนื้อสไตล์ญี่ปุ่นแบบพร้อมทาน ต้องยกให้กับยี่ห้อนี้ นอกจากจะสะดวกแล้ว ราคาก็ไม่แพง ที่สำคัญอร่อยมาก ๆ รับรองว่าเข้มข้นถูกปากคนไทยอย่างเรา ๆ แน่นอน สำหรับตัวนี้เพียงแค่ฉีกซอง และนำไปต้มในน้ำเดือดสัก 3 นาที และนำไปราดลงบนข้าวร้อน ๆ หรือจะนำไปทานกับขนมปัง หรือเส้นพาสต้าก็ได้เหมือนกัน แต่สำหรับใครที่ไม่อยากต้ม จะใช้ไมโครเวฟก็ได้ และที่สำคัญใช้เวลาเพียง 1 นาที เท่านั้น ก็จะพร้อมสำหรับการรับประทาน แกงกะหรี่สำเร็จรูปตัวนี้ ขอแนะนำว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากทานแกงกะหรี่ แบบครั้งเดียวจบ รับรองว่าทานแล้วหายอยากอย่างแน่นอน อร่อยเหมือนไปทานแกงกะหรี่ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเลยล่ะ
ปริมาณ 120 g. / ราคาประมาณ 59 บาท
LEE CURRY
สำหรับใครที่ชื่นชอบแกงกะหรี่ญี่ปุ่นสุดเข้มข้น ขอแนะนำให้รู้จักกับ LEE CURRY เป็นแกงกะหรี่กึ่งสำเร็จรูป ที่บรรดาชาวเน็ตต่างรีวิวกันแล้วว่า อร่อยจริง เข้มข้นจริง ด้วยเครื่องเทศกว่า 40 ชนิด ทำให้แกงกรฃะหรี่ตัวนี้มีรสชาติที่พิเศษมาก ๆ ขนาดคนญี่ปุ่นเอง ยังบอกว่าอร่อยมากทีเดียว ที่สำคัญคือในบ้านเรายังไม่มีขาย ใครที่อยากจะลองชิม ต้องสั่งทางออนไลน์เท่านั้น เป็นแกงกะหรี่ที่ทั้งอร่อยและสะดวกมาก ๆ เพียงแต่แกะซอง แล้วนำไปต้มในน้ำร้อนประมาณ 3-5 นาที จากนั้นก็นำไปรับประทานคู่กับข้าวญี่ปุ่นร้อน ๆ หรือจะเพิ่มท็อปปิ้งเป็นหมูทอดหอม ๆ ก็ยิ่งเข้ากันไปอีก สำหรับตัวนี้ มีความเผ็ดด้วยกัน 3 ระดับ คือ X10 X20 X30 เรียงจากน้อยไปมาก แต่สำหรับคนไทย ขอแนะนำให้ลองเป็น X20 กำลังดี
ปริมาณ 180 g. / ราคาประมาณ 199 บาท
จบไปแล้วสำหรับบทความรีวิว แกงกะหรี่ญี่ปุ่น ซึ่งในบทความนี้ก็จะประกอบไปด้วยแกงกะหรี่สำเร็จรูป ที่เราสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง แต่รสชาติอร่อยเหมือนเชฟญี่ปุ่นมาเสิร์ฟเอง เพราะแต่ละยี่ห้อนั้นล้วนถูกคัดมาแล้ว ว่าถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน ทั้งเข้มข้น กลมกล่อม หอม และรสชาติดั้งเดิม และความเผ็ดเหมาะสมกับต่อมรับรสของคนบ้านเรามาก ๆ อยู่ที่ว่าจะชอบแบบไหน สไตล์ไหน ชอบแบบหวาน แบบเข้มข้น แบบผัก หรือมีเนื้อสัตว์ผสม สามารถเอาไปดูเพื่อประกอบการตัดสินใจ ว่าจะเลือกซื้อแกงกะหรี่ญี่ปุ่นอร่อย ๆ ยี่ห้อไหนดี แต่ที่สำคัญเลยก็คือถ้าอยากเพิ่มความอร่อย อย่าลืมใส่เนื้อสัตว์และผัก พร้อมกับข้าวญี่ปุ่นร้อน ๆ ด้วยล่ะ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าเป็นแกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่อร่อยลงตัวแบบเต็มขั้น สำหรับบทความจาก za.in.th ในครั้งหน้า จะมารีวิว ของกิน ของอร่อย แบบไหน ต้องรอติดตามชมกันได้ใน https://www.za.in.th/