ประเด็นการลงทุนของ TMT : บริษัท ทีเอ็มที สตีล จำกัด (มหาชน) ความต้องการเหล็กที่ลดลงรวมถึงการแพร่ระบาดของ Covid-19 จะทำให้ปริมาณขายปี 2563 ลดลง 10% และราคาลดลง 13% รวมแล้วมูลค่ายอดขายจะทรุดลงร่วม 20% แต่กำไรคาดจะฟื้นตัวได้ จากอัตรากำไรขั้นต้นคาดจะดีขึ้น เนื่องจากราคาเหล็กในปีนี้ไม่ได้ดิ่งลงหนักเหมือนปีก่อน อย่างไรก็ตามกำไรจะยังเป็นระดับฐานที่ต่ำและไม่เด่น TMT เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลดี ปีก่อนจ่าย 0.30 มากกว่ากำไร 0.26 บาท ปีนี้คาดจะมีอัตราเงินปันผลตอบแทน 7.6% การคาดการณ์ของผู้บริหารนั้นคาดมูลค่ายอดขายจะปรับลดลงมากกว่า 20% ได้รับผลกระทบจากความต้องการเหล็กที่อ่อนแอ และรวมถึงปัญหา Covid-19 แต่อัตรากำไรขั้นต้นคาดจะปรับดีขึ้นเป็น 7% เทียบกับปี ก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเพียง 5.5% เนื่องจากราคาเหล็กในปีนี้ไม่ได้ดิ่งลงหนักเมื่อเทียบกับปีก่อน และราคาต้นทุนที่ลดมากกว่าราคาขาย ภายใต้เป้าหมายของผู้บริหารเราปรับประมาณการลดลง ประเมินยอดขายของ TMT เท่ากับ 12,950 ล้านบาท ลดลง 21% และ คาดกำไรจะฟื้นตัวดีขึ้นเป็ น 275 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น
ปริมาณขายเหล็กในเดือน ม.ค.-ก.พ. นับว่าอยู่ในเกณฑ์ดี 62,000-63,000 ตัน/เดือน รวมถึงราคาขายที่ที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในเดือน ม.ค.-ก.พ. ขึ้นมาถึงระดับ 9% แต่ในเดือน มี.ค. ถูกกระทบจาก Covid-19 คาดปริมาณขายจะลดลงเหลือประมาณ 50,000 ตัน รวมแล้วเราคาดกำไร 1Q63 จะฟื้นตัวดีขึ้นเป็น 80-100 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสก่อนที่มีกำไรเพียง 21 ล้านบาท แต่การแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่รุนแรงขึ้น ทำให้ผู้บริหารประเมินปริมาณขายใน 2Q63 จะลดลงเหลือเดือนละประมาณ 50,000 ตัน รวมถึงราคาขายเฉลี่ยที่ปรับลดลง ดังนั้นกำไร 2Q63 จะทรุดลง
TMT : บริษัท ทีเอ็มที สตีล จำกัด (มหาชน) ธุรกิจกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุตสาหกรรม หมวดธุรกิจเหล็ก วันที่เริ่มต้นซื้อขาย 18 ก.พ. 2548 ราคาพาร์ 1.00 บาท ทุนจดทะเบียน 870,758,034 บาท จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 870,758,034 หุ้น ลักษณะธุรกิจ ไม่ได้เป็นแค่เพียงผู้ผลิต ผู้จัดหาสินค้าเหล็ก หรือให้บริการเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นถึงการสร้างคุณค่า ประโยชน์ และความสำเร็จให้กับธุรกิจของลูกค้า ด้วยแนวคิดการเป็นศูนย์กลางให้บริการเหล็กครบวงจร ที่มุ่งตอบสนองความต้องการลูกค้าอย่างครอบคลุมรอบด้าน โดยการให้คำแนะนำ แก้ปัญหา ช่วยเหลือในการจัดหาสินค้า สร้างสรรค์บริการรูปแบบใหม่ๆ คิดค้นทางเลือกที่หลากหลายแก่ลูกค้า เพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์เหล็ก ซึ่งเป็นการเปลี่ยนมุมมองใหม่ในการทำธุรกิจเหล็ก ที่ไม่ได้เป็นเพียง ผู้จัดจำหน่ายเหล็ก? อีกต่อไป แต่เป็นโครงสร้างความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของลูกค้า