COVID-19 ส่งผลต่อ RS แต่กลยุทธ์ของ RS จะปรับตัวได้ดี

1 Min Read

RS : บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจพาณิชย์ เริ่มต้นซื้อขายมาตั้งแต่เมื่อ 22 พ.ค. 2546 ทุนราคาพาร์ 1 บาท หุ้นสามัญทุนจดทะเบียน 1,161,997,216 บาท จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 972,495,202 หุ้น ลักษณะธุรกิจธุรกิจพาณิชย์หลายช่องทาง ที่มีสินค้าและช่องทางที่หลากหลาย ผสานเข้ากับสื่อของบริษัทเองที่แข็งแกร่งและครบวงจร

โบรกเกอร์ต่างๆมีการคาดการกำไรในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ยังสามารถโตได้ การระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อยอดขายของ RS MALL อยู่บ้าง แต่เพราะมีรายได้ช่อง 34 และช่อง 23 มาเพิ่ม แต่รายได้ช่อง 8 ดีขึ้นจากการปรับกลยุทธ์และทีมขาย จึงล็อคค่าโฆษณามาได้สูงขึ้น เพลงขึ้นจาก Streaming และ online และมีคอนเสิร์ต 1 งานขายบัตรหมดแล้ว อีกทั้งมีการขายลิขสิทธิ์เก่าได้ 60 – 80 ลบ. ซึ่งมีต้นทุนต่ำ คาดกำไรโตได้

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป ระบุคำแนะนำว่าซื้อราคาพื้นฐาน 12.80 บาท มีการคาดการณ์ Conservative อยู่แล้ว โดยมีรายได้ 3,924 ล้านบาท และกำไรที่ 430 ล้านบาท โดยจะติดตามผลประกอบการต่อไป ซึ่งมีโอกาสที่ RS จะทำได้ดีกว่าคาดหากกลยุทธ์ต่างๆ ที่ปรับได้ผลดี

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ “โควิด-19” (Covid-19) ซึ่งได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปในหลายๆ พื้นที่ ดังนั้น RS GROUP หนึ่งในองค์กรที่ใส่ใจและให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ออกมาตรการการป้องกันในการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสถานที่ทำงาน เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเพื่อนพนักงาน และเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้แก่พนักงาน เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ และผู้มาติดต่อที่สำนักงาน

มาตรการสำคัญสำหรับพนักงานภายในองค์กร ได้แก่ การขอความร่วมมือจากพนักงานให้ งดการเดินทางหรือผ่านไปพื้นที่เสี่ยงดังต่อไปนี้ หากไม่มีความจำเป็น 1. สาธารณรัฐประชาชนจีน 2.เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน 3.เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน 4.ประเทศไต้หวัน 5.สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) 6.ประเทศญี่ปุ่น 7.สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม 8.สาธารณรัฐสิงคโปร์ 9.ประเทศมาเลเซีย กรณีพนักงานมีความจำเป็นต้องเดินทางไป ณ ประเทศที่มีการระบาดของเชื้อดังกล่าวโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ และกลับเข้ามาประเทศไทย ห้ามมิให้เข้าที่ทำงานและต้องเฝ้าระวังอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการทางการแพทย์ในการควบคุมโรคติดต่อ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาการป่วยใดๆ ก่อนกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง

รวมไปถึงการดูแลรักษาสุขอนามัยทั่วไปเพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ เช่น พนักงานที่มีไข้, ไอ-จาม ต้องพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยอาการและทำการรักษาโดยทันที หากแพทย์ทำการรักษาและพบว่าพนักงานป่วยเนื่องจากติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พนักงานสามารถใช้สิทธิ์ลาป่วยเพื่อทำการรักษาจนหายขาด นอกเหนือจากมาตรการที่ออกมาสำหรับพนักงานแล้ว บริษัทยังจัดให้มีสบู่เหลวและแอลกอฮอลล์เจลทำความสะอาดมือไว้ตามจุดต่างๆ ในสำนักงาน และในห้องน้ำ โดยแนะนำให้พนักงานหมั่นล้างมือ และสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค หรือพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น เพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานทุกคนได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยตลอดเวลา

ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย

ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่

Share this Article
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่