TTA : บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) ธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ เริ่มต้นซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อ 25 ก.ย. 2538 ราคาพาร์ 1 บาท ทุนจดทะเบียน1,998,446,888 บาท จำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 1,998,446,888 บาท ลักษณะธุรกิจ ธุรกิจลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น โดยลงทุนในธุรกิจหลัก 4 กลุ่มได้แก่ กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร และกลุ่มการลงทุนอื่น
การลงทุนของเราในกลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ ประกอบด้วยธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกอง และธุรกิจงานบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือ เช่น ธุรกิจตัวแทนเรือ และธุรกิจนายหน้าเช่าเหมาเรือ ธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกอง กลุ่มโทรีเซน ชิปปิ้ง เป็นหนึ่งในบริษัทที่เป็นเจ้าของเรือ ประเภท Handymax และประเภท Supramax รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทำให้เราสามารถให้บริการเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองครอบคลุมไปทั่วโลก เรือของบริษัทฯ สามารถบรรทุกสินค้าแห้งเทกองทั้งแบบขนส่งเป็นปริมาณมากๆ ในครั้งเดียว หรือขนส่งเป็นปริมาณไม่มากในแต่ละเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น แร่เหล็ก ถ่านหิน เมล็ดธัญพืช ซีเมนต์ ปุ๋ย ผลิตภัณฑ์เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ที่ได้จากป่าไม้
ปัจจุบัน กองเรือของโทรีเซน ให้บริการขนส่งแบบไม่ประจำเส้นทาง โดยเส้นทางการเดินเรือจะขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า โดยแบ่งออกเป็น การเซ็นสัญญารับขนส่งสินค้าล่วงหน้า (Contracts of Affreightment – COA) สัญญาเช่าเป็นเที่ยว (Time Charter Trip) และการเช่าแบบกำหนดระยะเวลา (Period Time Charter) ซึ่งนอกจากเรือที่เป็นของเราเองแล้ว โทรีเซนยังได้เช่าเรือจากที่อื่นมาเสริมกองเรือ เพื่อให้เราสามารถให้บริการได้ตามความต้องการของลูกค้า
ธุรกิจขนส่งทางเรือ (70% ของ EBITDA) ผู้บริหารคาดว่าจะมีผลประกอบการที่ลดลง YoY ในปี 2020 กดดันจากค่าระวางเรือที่ปรับตัวลงจากฐานที่สูงในปี 2019 ประกอบกับ ผลกระทบจากโรคระบาด COVID-19 ทั้งนี้ สำนักวิจัย Clarksons คาดการณ์ว่าปริมาณขนส่งสินค้าผ่านเรือเทกอง จะเติบโต 2.0%YoY มาอยู่ที่ 5.4 พันล้านตัน ในปี 2020 หนุนจากการนำเข้าถ่านหินที่เพิ่มขึ้นในอินเดีย และ การนำเข้าสินค้าเกษตรของจีน อาทิ ถั่วเหลือง ข้าวสาลีที่เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงยุติสงครามการค้าในเฟส 1 ระหว่าง กับ สหรัฐ ธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง (มีผลขาดทุน 437 ล.บ. ใน 2019) คาดว่าจะกลับมามี EBITDA เป็นบวกได้ในปี 2020 หลังจากติดลบในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากการรับรู้รายได้จาก order book มูลค่ากว่า US$217 ล้าน สูงที่สุดในรอบกว่า 4 ปี จากการที่บริษัทได้ต่อสัญญาโครงการขนาดใหญ่ จาก Saudi Aramco เป็นระยะเวลา 3 ปี และมาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS 16 เรื่องสัญญาเช่า ในธุรกิจอาหาร คาดจะกระทบต่องบกำไรขาดทุนของบริษัทในปี 2020 ประมาณ 8 ล้านบาท
ซึ่งนักวิเคราะห์ของบมจ.หลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป ระบุไว้ว่าราคาหุ้น TTA ปรับตัวลงกว่า 40% YTD มาซื้อขายอยู่บริเวณ Trailing PBV ที่ 0.27x ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดตลอดการเป็นไปตามดัชนี BSI ที่ยังเป็นแนวโน้มขาลงจากช่วงปลายปี 19 และท าจุดต่ าสุดที่ 470 จุด ในช่วงกลางเดือน ก.พ. 20 กดดันจากปัจจัยไข้หวัด COVID-19 ทั้งนี้ดัชนีเริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงปลาย เดือน ก.พ. มาอยู่ที่ 630 จุด ณ ปัจจุบัน เป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัว นักลงทุนจึงควรติดตามผลประกอบการรายไตรมาสอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้อิงจากข้อมูลของ Bloomberg onsensus ไม่มีข้อมูลประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย