ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีการปิดใกล้เคียงกับสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 1,572.92 จุด ลดลงเพียง 0.06% จากสัปดาห์ก่อน โดยขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 56,837.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.32% เทียบจากสัปดาห์ก่อน ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดตัวลดลง 1.40% จากสัปดาห์ก่อนมาปิดที่ 310.49 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดเมื่อปิดสัปดาห์
CPALL – บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) มูลค่าซื้อขาย 2,807,210.68 (‘000 บาท)
PTT – บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มูลค่าซื้อขาย 2,635,591.30 (‘000 บาท)
BBL – ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)มูลค่าซื้อขาย 1,861,714.65 (‘000 บาท)
ADVANC – บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) มูลค่าซื้อขาย 1,680,677.50 (‘000 บาท)
SCC – บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน)มูลค่าซื้อขาย1,602,565.30 (‘000 บาท)
5 หลักทรัพย์ที่มีปริมาณซื้อขายเมื่อปิดสัปดาห์
TMB – ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ปริมาณซื้อขาย 452,785,700 หุ้น
IRPC – บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ปริมาณซื้อขาย 256,924,400 หุ้น
TRUE – บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปริมาณซื้อขาย 103,613,500 หุ้น
BTS – บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ปริมาณซื้อขาย 99,057,300 หุ้น
JAS – บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ปริมาณซื้อขาย 94,498,700 หุ้น
5 หลักทรัพย์ที่มีหุ้นเพิ่มขึ้นเมื่อปิดสัปดาห์
PACE – บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ราคาล่าสุด 0.08 บาท
MNIT – กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็มเอฟซี-นิชดาธานี ราคาล่าสุด 1.67 บาท
WG – บริษัท ไว้ท์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ราคาล่าสุด 154.00 บาท
TRC – บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ราคาล่าสุด 0.13 บาท
APEX – บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ราคาล่าสุด 0.15 บาท
ในภาพรวมของแต่ละอุตสาหกรรม ณ วันปิดสัปดาห์ หมวดอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง (CONMAT) มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 125.73 จุด คิดเป็น 1.28 % ตามด้วยปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ (PETRO) เพิ่มขึ้น 8.95 จุด คิดเป็น 0.93 % และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (PF&REIT) เพิ่มขึ้น 1.82 จุด คิดเป็น 0.8 %
มุมมองด้านเงินบาท มีการเคลื่อนไหวภายในกอบแคบๆ ตลอดสัปดาห์ ข่าวที่น่าสนใจคือการทบทวนประมาณการเศรษฐกิจและสัญญาณดอกเบี้ยในปีหน้า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยไว้ที่ระดับเดิมตามที่ตลาดคาด เนื่องจากเงินดอลลาร์ฯ กลับมาเผชิญแรงขาย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสกุลเงินปลอดภัยทั้งเงินเยนเงินบาท ภายหลังหลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติถอดถอนจากตำแหน่ง ประกอบกับมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด โดยราคาล่าสุดเมื่อวันศุกร์ (20 ธ.ค.62) อยู่ที่ 30.17 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับวันศุกร์ก่อนหน้า (13 ธ.ค.62) อยู่ที่ระดับ 30.21 บาทต่อดอลลาร์ฯ
Author: ผู้เชี่ยวชาญการเงินการลงทุน ซ่าอินไทย
ติดตามข่าวสารการเงินการลงทุนทุกรูปแบบได้ที่นี่
